ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย-เนปาล ด้วยเที่ยวบินพิเศษ บินตรงลงคยา พร้อมบริการอาหาร และ ที่พักโรงแรมตลอดการเดินทาง ในราคาพิเศษ มีจำนวนจำกัด ปี 2567 พร้อมให้บริการในราคาโปรโมชั่น น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง 25 กิโลกรัม 14-21 กพ 2567 โปรโมชั่นพิเศษ
ทัวร์สังเวชนียสถาน อินเดีย เนปาล 8 วัน7คืน พักโรงแรม บินตรงการบินไทย ไปสาวัตถี
สถานที่ ประสูติ แสดงปฐมเทศนา และสถานที่พระพุทธองค์ดับขันธปรินิพพาน
พร้อมเยือน รามคาม เทวทหะ ร่วมทำวัตร ปฏิบัติบูชา เสริมมงคลให้กับชีวิต ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เวียนเทียน แห่ผ้าห่มหลวงพ่อพระพุทธเมตตา ถวายผ้าอาบน้ำฝน ทอดผ้าป่า ปฏิบัติบูชามากมาย
โดยทีมงาน มัคคุเทศก์ที่ชำนาญงานที่พักระดับมาตรฐาน มาตรฐาน ฟาฟา ทราเวล
★ บินตรงลงคยา
★ พักโรงแรมตลอดการเดินทาง พร้อมอาหารถูกหลักอนามัย และ เสริมอาหารไทย
★ พาทุกท่านสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม พร้อมนิมนต์พระธรรมฑูตสายอินเดียเนปาล นำพาแสวงบุญ ในเส้น ทาง สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
★ พร้อมเครื่องสักการะ ร่วมถวายผ้าห่มพระปางปรินิพพาน ผ้าไตรจีวรถวาย พระพุทธเมตตา
★ คุ้มค่ากับพุทธคยา ร่วมเจริญสติและสวดมนต์ ณ มณฑลเจดีย์พุทธคยาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
★ หัวหน้าทัวร์ไทย และมัคคุเทศก์ชาวอินเดีย ประสบการณ์และนำเที่ยว ให้ทุกท่านมั่นใจ ในการให้ บริการ ด้วยบริษัทฯนำเที่ยวจากอินเดีย ที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้องตามกฎหมาย
★ เส้นทางสะดวก จัดหาจุดพักรถ เข้าห้องน้ำตลอดการเดินทาง
★ พร้อมชิมอาหารอินเดียสุดอร่อย แกงกระหรี่ไก่ ข้าวหมก และแกงกระหรี่แพะ สูตรอินเดียแท้
นัดหมายเวลา 09.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร 1 ชั้น 4 เชิญที่ประตู 1-3 สายการบิน Thai Smile Flight WE 327 เพื่อตรวจเอกสารการเดินทางและสัมภาระ เจ้าหน้าที่ฟาฟา ทราเวล รอทุกท่านเพื่อเตรียมสัมภาระ โหลดขึ้นเครื่อง น้ำหนักสัมภาระ ตามเงื่อนไขข้อกำหนดของสายการบิน น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. ถือขึ้นเครื่องได้ 7 ก.ก.
12.20 น. ออกเดินทางสู่ประเทศอินเดีย ด้วยสายการบิน Thai Smiles ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30นาที เวลาของอินเดียช้ากว่าไทย ประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที ถึงสนามบินคยา ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 14.00 น.)
14.00 น. พาทุกท่านทำเรื่องผ่านด่านคยา (Gaya Immigration) ประเทศอินเดีย รับกระเป๋า พร้อมออกเดินทางเข้าเมืองพุทธคยา โดยรถบัสปรับอากาศ และต้อนรับพระธรรมฑูตสายอินเดีย เนปาล รอทุกท่านที่พุทธคยา
เดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Maya Heritage / Similar
พาทุกท่านเข้ากราบสักการะ มหาโพธิเจดีย์ เมืองพุทธคยา อิสระใน การทำบุญและเจริญจิตภาวนา พุทธสังเวชนียสถาน แห่งที่สำคัญ สถานที่ตรัสรู้ จุดนี้เป็นจุดที่พุทธศาสนิกชนต้องการที่จะมาเยือนสัก ครั้งหนึ่งในชีวิต
“ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ต้นไม้แห่งการตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณและเป็น ๑ ใน ๗ สหชาติ ขององค์สมเด็จบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังคงตั้งตระหง่านในใจเราเสมอๆ คราวใดที่ได้น้อมรำลึกนึกถึงคราวได้ไปกราบ ได้ไปใกล้ๆ ดุจได้กราบแทบบาทองค์พระศาสดา ๑ สถานที่ความศักดิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของเหล่าพุทธบริษัททั่วสารทิศ
เย็น รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองพุทธคยา : Hotel Maya Heritage หรือเทียบเท่า
วันที่ 2 |
คยา ๏ ราชคฤห์๏ นาลันทา๏ ไวสาลี |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
ออกเดินทางมุงหน้าสู่เมืองราชคฤห์ เยี่ยมชม พระมูลคันธกุฎีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ เขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ประเทศอินเดียซึ่งเขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ประทับจำพรรษาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพรรษาที่ ๒ ,๕ ,๗ และพรรษาสุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานคู และประกอบด้วยคูหาอันเป็นกุฏิของอัครสาวกทั้ง ถ้ำสุกรขาตา ของพระสารีบุตร และถ้ำของพระโมคคัลลานะ เมื่อขึ้นไปด้านบน บรรยากาศจะสงัดร่มเย็นและสัปปายะมาก แม้จะมีผู้คนขึ้นลงในแต่ละวันเพื่อมานมัสการกันเป็นจำนวนมาก แต่ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านทิวเขา ทิวเขารอบๆ ใหญ่โต ห่างไกลเสียงอึกทึกครึกโครมของตัวเมือง คิชฌกูฏเป็นสถานที่เงียบสงัดเหมาะสำหรับจิตพึงให้อยู่ในความสงบ ทั้งอากาศและบรรยากาศเป็นที่โน้มน้าวจิตใจให้ใสสะอาดได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงมักเสด็จมาประทับที่นี่เสมอ แวะทำบุญทอดผ้าป่า ณ วัดไทยลัฏธิวัน เมืองราชคฤห์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองราชคฤห์/นาลันทา
บ่าย สักการะหลวงพ่อพระองค์ดำ พระพุทธธูปอันศักดิ์สิทธิ์เมืองนาลัน ที่ชาวพุทธนักท่องเทียวผู้มีศรัทธาต่างมาสักการะ “หลวงพ่อองค์ดำ” เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือจากการทำลายในครั้งสงครามศาสนาที่เข้ามายึดทำลายอินเดีย เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้นที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของมุสลิม และไม่ถูกอังกฤษยึดไป ชาวบ้านได้มาดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดการเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้หลวงพ่อรักษาโรคต่างๆ นับเป็นมหัศจรรย์ว่าโรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วย “พลังความศักดิ์สิทธิ์” ของพระองค์ท่าน แม้แต่ปัจจุบันชาวพุทธผู้แสวงบุญชาวไทยต่างได้เดินทางไปสักการะและอธิษฐานขอพรจากท่านรักษาโรคต่างๆ หายได้อย่างน่าประหลาดใจ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งนัก หลังจากนั้นแวะเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยนาลันทา(เก่า) ออกเดินทางสู่เมือง ไวศาลี
เย็น รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองไวศาลี : Hotel Vaishali Int’l. / Similar หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 |
ไวสาลี ๏ มหาเจดีย์เกสริยา ๏ กุสินารา |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
พาทุกท่านเยี่ยมชมแสวงบุญในจุดสำคัญเมืองไวศาลี คือ ปาวาลเจดีย์ พระสถูปเก่าแก่และเป็นพุทธสถานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำการปลงพระชนมายุสังขาร
จากนั้นเยี่ยมชมวัดป่ามหาวัน สถานที่แห่งนี้ยังมีเสาหิน พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นเสาที่มีความสมบูรณ์ บนหัวเสามีรูปสิงโต นำทุกท่านปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ฟังธรรมตามสมควร เมื่อถึงเวลา พาทุกท่านเดินทางเมืองลุมพินี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ระหว่างทางพาทุกท่านสักการะ มหาเจดีย์เกสริยา เป็นจุดที่จัดเก็บที่ประดิษฐานบาตรของพระโคตมพุทธเจ้าที่ทรง ประทานแก่ชาววัชชี ปัจจุบันได้ขุดและนำออกจากสถูปเรียบร้อยแล้วโดย มหาเจดีย์เกสริยา เป็นสถูปเดียวกับที่ปรากฏในบันทึกของพระ ถังซำจั๋ง ที่เคยจาริกแสวงบุญมายังสถานที่แห่งนี้ ท่านได้กล่าวไว้ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพระมหาสถูปที่ประดิษฐานบาตรของ พระพุทธองค์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานแก่ชาววัชชีเมืองไวสาลีที่ตาม มาส่งเสด็จพระพุทธองค์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเสด็จไปยังเมืองกุสินารา
ออกเดินทางถึง เมืองกุสินารา เมืองพุทธสถาน หนึ่งใน ๔ สังเวชนียสถาน สถานที่ พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน
กราบ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระขององค์บรมศาสดา คณะร่วมกันปฏิบัติบูชา สวดมนต์ เวียนเทียนโดยรอบ และนั่งเจริญจิต ภาวนา
นำทุกท่านร่วมกันทำบุญ ซื้อของฝาก และเยี่ยมชม วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ น้อมถวายผ้าป่า
วันที่ 4 กุสินารา – ลุมพินี |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำคณะเดินทางสู่ สวนสาลวโนทยาน กราบสักการะ มหาปรินิพพานสถูป เจดีย์ทรงบาตรคว่ำภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน สร้างด้วยหินทรายแดงอายุกว่า ๑,๙๐๐ ปี ที่งดงาม ร่วมกันปฏิบัติธรรม ฟังธรรม และสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้ มีพิธีห่มผ้าสีดุจทองเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาและน้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การที่พระพุทธองค์ทรงเลือกเมืองกุสินาราอันเป็นเมืองเล็กแห่งนี้เป็นสถานที่ปรินิพพาน มีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญ คือทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์จักถูกแว่นแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็ก ๆ เช่น เมืองกุสินารา เป็นต้น ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางต่อสู่เมืองลุมพินี ประเทศเนปาล
ออกเดินทางต่อไปยังลุมพินี ประเทศเนปาล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง พาทุกท่านทำเรื่องผ่านแดน ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง โสโนลี (Sonauli India Immigration)ก่อนถึงด่าน นำท่านแวะเข้าห้องน้ำพักผ่อน ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม ๙๖๐ ท่านสามารถรับประทานโรตีอารีดอย ราดนมข้นอันเลื่องชื่อได้
หลังจากทำเรื่องข้ามด่านพรมแดนเรียบร้อย พาทุกท่านสู่ สังเวชนียสถานแห่งแรก สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล นำพาทุกท่าน เจริญจิตภาวนา สวดมนต์ ถวายเป็นพุทธบูชา และ ชมโบราณสถาน มายาเทวีวิหาร (Maya Devi Temple) พร้อมรอยพระบาท ๗ ก้าวของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สถานที่แห่งนี้เย็น ข้ามด่านไปประเทศเนปาล รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองลุมพินี : Hotel Mourya หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ลุมพินี-สาวัตถี |
สังเวชนียสถานแห่งแรก สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล นำพาทุกท่าน เจริญจิตภาวนา สวดมนต์ ถวายเป็นพุทธบูชา และ ชมโบราณสถาน มายาเทวีวิหาร (Maya Devi Temple) พร้อมรอยพระบาท ๗ ก้าวของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นอุทยานที่น่ารื่นรมย์ อยู่กึ่งกลางรหว่างเมืองเทวทหะ กับกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันเรียกว่า รุมมินเด อำเภอไพราว่า ประเทศเนปาล ห่างจากพรมแดนอินเดียราว 23 กิโลเมคร สิ่งที่ค้นพบ คือ ซากวัดเก่าแก่ สระน้ำที่พระนางสิริมหามายาทรงสนาน, รูปปั้นหินอ่อนตอนพระนางประสูติพระราชโอรส และเสาหินที่พระเจ้าอโศกมหาราชจารึกไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า.
ออกเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศอินเดียอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปยัง เมืองสาวัตถี ด่านตรวจคนเข้าเมือง โสโนลี (Sonauli India Immigration) อีกครั้ง ก่อนถึงด่าน นำท่านแวะเข้าห้องน้ำพักผ่อน ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม ๙๖๐ และให้ทุกท่านสามารถทำบุญ ทอดผ้าป่าได้ รับประทานอาหารตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่ออีกครั้ง ระหว่างทาง แวะวัดสิทธารถราชมณเฑียร รัฐอุตตรัฐประเทศ จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองสาวัตถี
วันที่ 6 สาวัตถี-พาราณสี |
เมืองสาวัตถี เมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล ที่มี“พระเจ้าปเสนทิโกศล” เป็นผู้ปกครองแคว้นโกศล พระองค์เป็นผู้ที่ให้ความเคารพนับถือพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก
-เมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับจำพรรษาอยู่ยาวนานที่สุดถึง 25 พรรษา(พระพุทธองค์เผยแผ่ประกาศพระพุทธศาสนาอยู่ 45 พรรษา) “องคุลิมาล” มหาโจรที่สุดท้ายกลับตัวกลับใจจนได้เป็นพระอรหันต์ เมืองที่พระเทวทัต นางจิญจมาณวิกา และนันทมานพถูกธรณีสูบ “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” ได้สร้าง “วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร”
เมื่อถึงเมืองสาวัตถี นำทุกท่านเข้า “วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร”มีความสำคัญที่สุด เนื่องจากพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับจำพรรษาอยู่ถึง 19 พรรษา เข้ากราบ อานันทโพธ์ ต้นโพธิ์อายุกว่า 2,500 ปี ตั้งแต่สมัยพุทธกาล และจุดสำคัญจุดอื่นๆโดยรอบ วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร และสถานที่สำคัญภายในบริเวณดังกล่าวอาทิเช่น “เจดีย์อรหันต์ 8 ทิศ” “ธรรมราธิการ” หรือสถานที่ตัดสินคดีความเปรียบได้ดังศาล และ กลุ่ม “กลุ่มกุฏิสำคัญ”
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี
ถึงโรงแรมที่พัก
วันที่7 พาราณสี-ล่องแม่น้ำคงคา-ธัมเมกขสถูป-พุทธคยา |
เช้า ชมวิถียามเช้า ของชาวเมืองพาราณสี ริมฝั่งแม่น้ำคงคา พร้อมล่อง เรือดูพิธีสุริยนมัสการ ในยามเช้า พร้อมลอยกระทงดอกไม้ ทางทัวร์จัด เตรียมมาให้เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุกลางแม่น้ำคงคา ผู้คนมา อาบน้ำยามเช้า ณ แม่น้ำคงคา ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในหนึ่งวันจะอาบน้ำ เพียงหนเดียวคือในยามเช้า โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยแถบริมแม่น้ำคงคา เนื่องด้วย
๑. เชื่อว่าเป็นน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ การชำระร่างกายอันเป็นกิจประจำ ยังถือเป็นน้ำที่ ล้างบาปไปด้วย
๒. การอาบในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการขอ พรและบูชาพระสุริยเทพต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน
ท่าน้ำทั้ง ๕ คือ ท่าอัสสี ท่าทศอัศวเมธ ท่าปัญจคงคา ท่ามณิกรรณิกา และท่าอธิเกศวรระทาน
เช้า กลับมารับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก หลังจากรับประทานอาหารเช้า พาทุกท่านเดินทางสู่ สารนาถ หรือ ป่าอิสิปปตนมฤคทายวัน หนึ่งในสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก และเป็นสถานที่ที่มีพระรัตนตรัย ครบ องค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งปฐมธรรมบทแรกคือ บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ในวันเพ็ญอาสาฬหมาส เป็นครั้งแรก ร่วมกัน ปฏิบัติธรรม สวดมนต์บท ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ณ สถานที่แห่งนี้ ปัจจุบันมีสถูปขนาดใหญ่ เป็นที่รู้จักกันในในนาม ธัมเมกขสถูป (Dhamek Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สังเวชนียสถานแห่งที่ 3