
เส้นทางแสวงบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ ทอดผ้าป่า ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
☀ ☀ ☀ ◎ อินเดีย ◎ เนปาล☀ ☀ ☀
ฟาฟาทราเวล จัดหาที่พักในแต่ละเมือง ด้วยมาตรฐานโรงแรมระดับ 3-4ดาว พร้อมบริการอาหาร และเสริมจากไทยตลอดการเดินทาง
[huge_it_gallery id=”10″]
➽ วันที่ ๑ เมืองสาวัตถี
➽ วันที่ ๒ เมืองลุมพินี
➽ วันที่ ๓ เมืองกุสินารา
➽ วันที่ ๔ เดินทางสู่เมืองพาราณสี
➽ วันที่ ๕ เมืองพาราณสี-สารนาถ – พุทธคยา
➽ วันที่ ๖ พุทธคยา
➽ วันที่ ๗ ราชคฤห์ นาลันทา
➽ วันที่ ๘ เต็มอิ่ม ณ พุทธคยา
➽ วันที่ ๙ บินภายในจากเมืองปัตนะ สู่โกลกาต้า กลับไทยโดยสวัสดิภาพ ไม่เหนื่อย
สอบถามโทร 0891094455
line:fafatravel
ความคุ้มค่าที่เหนือกว่าความคุ้มค่า กับทริป 19-28 พย.59 ทำไมเรากล้าบอกเช่นนี้ เรามั่นใจในคุณภาพ การบริการ และสถานที่แสวงบุญ ที่เรานำพาทุกท่านไปเยือน เหลือเพียงไม่กี่ที่สุดท้าย 42,500 ราคานี้หาไม่ได้อีกแล้วที่จะพา ทุกท่านแสวงบุญ สังเวชนียสถาน ทัชมาฮาล เดลี สังกัสสะ พักโรงแรม 6 คืน พักวัด 3 คืน บินภายในสู่เมืองราชคฤห์ แสวงบุญทันที !!!! ไม่เหนื่อย โทร 089-1094455
เมือง”สังกัสสะ” หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จลงมาจากเทวโลก หลังจากจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อแสดงธรรมโปรดพุทธมารดาแล้ว วันที่เสด็จลงคือวันออกพรรษาเมืองที่เสด็จลงคือเมือง สังกัสนคร
ณ สถานที่แห่งนี้ รอยพระบาทแรกที่พระองค์ทรงเสด็จลงมาเรียกว่า ‘อจลเจดีย์’ เรียกอย่างไทยเราก็ว่า ‘รอยพระพุทธบาท’ ตามตำนานว่าที่นี่เป็นที่แห่งหนึ่งซึ่งมีรอยพระพุ
คนผู้นับถือศาสนาพุทธในเมือ
บุญตักบาตรกันในวันนี้ เพราะถือว่าเป็นวันที่พระพุ
บาตรนี้ว่า ‘ตักบาตรเทโว’ ย่อมาจากเทโวโรหณะ แปลว่า ตักบาตรเนื่องในวันคล้ายวัน
ลงจากเทวโลกนั่นเอง
หมายเหตุ ภาพและข้อมูลจาก สมุดภาพพระพุทธประวัติฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระ
สำหรับทริปแสวงบุญ ทีมงานฟาฟา ทราเวล ร่วมนำพาผู้แสวงบุญมากราบนมัสการ รอยพระพุทธบาท ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้ พร้อมกันนี้ทุกท่านที่ร่วมเดินทางจะได้ร่วมทำบุญมหากุศล และอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่บรรพบุรุษทุกภพ ทุกชาติ ทั้งที่อยู่บนสวรรค์ ภูมิมนุษย์ หรือในนรก ณ จุดที่พระพุทธองค์ทรงเปิดสามโลกธาตุ ผู้ร่วมแสวงบุญร่วมกันถวายผ้าบังสกุล ณ สถานที่แห่งนี้ กับคณะสงฆ์ที่ร่วมเดินทางแสวงบุญ ถือได้ว่าเป็นมหากุศล ที่นับว่าหาได้ยากยิ่ง ฟาฟา ทราเวล จึงขอเรียนเชิญท่านที่สนใจร่วมเดินทางแสวงบุญ ไปกับเรา
สังกัสสนคร ** ข้อมูลจากเว็บวัดไทยเชตวันฯ
เป็นที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์สวรรค์ หลังจากที่เสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดา ด้วยพระอภิธรรม เจ็ดคัมภีร์ เป็นเวลา ๓ เดือน ต่อเมื่อวันมหาปวารณาจึงเสด็จลงสู่มนุสสโลก ในที่ใกล้กับประตูเมืองสังกัสสะ ท่ามกลางเทพ พรหม แวดล้อมเป็นบริวาร และได้ตรัสเทศนาในปโรสหัสสชาดกอีกด้วย
สังกัสสะ เคยเป็นเมืองใหญ่ ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของพระพุทธศาสนาในอินเดีย เมื่อถึงคราวเสื่อมสูญ เมืองจึงกลายเป็นป่าในที่สุด ยิ่งเมื่อประมาณ พ.ศ.๑๗๒๖ (ค.ศ.๑๑๘๓) พวกพราหมณ์พากันยุยงราชาไชยจันทร์ แห่งเมืองกาเนาช์ว่า พระพุทธศาสนาเป็นภัยต่อฮินดู ขืนปล่อยไว้บ้านเมืองจะต้องวิปริต ราชาไชยจันทร์จึงกรีฑาทัพมาทำลายล้างเสียราบเรียบ สังกัสสะจึงกลายเป็นทุ่งโล่ง
หลวงจีนถังซัมจั๋ง เดินทางมาที่นี้ ได้พบเสาหินพระเจ้าอโศก สูงประมาณ ๗๐ ฟุต อยู่ข้างพระวิหาร มีกำแพงยาว ๕๐ ฟุต เป็นที่พระบรมศาสดาเสด็จเดินจงกรม มีรูปเครื่องหมายดอกบัวอยู่บนกำแพง อย่างเดียวกับที่เมืองพุทธคยา
ท่านเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ได้ศึกษาจากบันทึกจดหมายเหตุของหลวงจีนทั้งสองท่าน ที่เดินทางมาสืบพระศาสนาในอินเดียนั้น จึงได้สำรวจโบราณสถานสังกัสสะ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๕ (ค.ศ.๑๘๔๒) ได้พบซากวิหาร กำแพงพระพุทธปฏิมากร และเสาหินพระเจ้าอโศก ซึ่งส่วนบนเป็นรูปช้าง ได้ถูกทำลายลงเหลือแต่คอเท่านั้น
ปัจจุบันสังกัสสนคร ยังเหลือเป็นโบราณสถานที่รัฐบาลดูแลรักษาอยู่ ตั้งอยู่ในเขตปกครองของ อำเภอฟาร์รุกขบาด รัฐอุตตรประเทศ อยู่ระหว่างเมืองลักเนาว์ กับเมืองอัคระ ห่างจากเมืองกานปุร์ ไป ๙๗ ไมล์ มีเนินดินเหมือนสถูปเก่ากับเสาศิลาจารึกของจักรพรรดิอโศกอยู่ที่นั้น ผู้มีความสนใจใฝ่รู้ ก็สามารถเดินทางไปสู่สถานนี้ได้ด้วยความสะดวก
ขณะที่พระบรมศาสดาทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์อยู่ที่กรุงสาวัตถีนั้น ทรงดำริว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต หลังจากทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว จักอยู่จำพรรษา ณ ที่ใด ทรงทราบว่าจำพรรษาในดาวดึงส์พิภพ เพื่อตรัสแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
เมื่อพระพุทธองค์แสดงยมกปาฏิหาริย์เสร็จแล้ว ได้เสด็จขึ้นไปยังดาวดึงส์พิภพ ท้าวสักกะเทวราชทอดพระเนตรเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จมาต้อนรับพร้อมด้วยหมู่เทวดาทั้งหลาย พวกมหาชนที่ติดตามมา ได้ทราบจากพระอนุรุทธะว่า พระพุทธองค์เสด็จขึ้นไปยังภพดาวดึงส์ และจักประทับอยู่ตลอดพรรษา มหาชนจึงพากันตั้งที่พำนักคอยอยู่ ณ ที่นั้น พระบรมศาสดาได้ตรัสสั่งพระโมคคัลลานะไว้ก่อนว่า เธอพึงแสดงธรรมแก่บริษัทนั้น จุลอนาถบิณฑิกะจักให้เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ชนเหล่านั้นทุกวันเวลาทั้ง เช้าเย็น ตลอดไตรมาส
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเหนือ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ควงไม้ปาริฉัตตกะ ท่ามกลางเทวบริษัท พระพุทธมารดาเสด็จลงมาจากวิมานชั้นดุสิต
พระบรมศาสดาตรัสแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ คือ ธัมมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตถุ ยมก และปัฏฐาน ทรงเริ่มตั้งพระอภิธรรมว่า กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา ดังนี้เป็นต้น
พระพุทธองค์ทรงแสดงพระอภิธรรม โปรดพระพุทธมารดา โดยนัยนี้เรื่อยไปตลอดพรรษา ในเวลาบิณฑบาต พระพุทธองค์ทรงเนรมิตพุทธนิรมิต ทรงอธิษฐานว่าพระพุทธนิรมิต จงแสดงธรรมชื่อนี้ ๆ จนกว่าเราจะกลับมา แล้วเสด็จไปป่าหิมพานต์ ทรงเคี้ยวไม้สีฟันชื่อนาคลดา บ้วนพระโอษฐ์ที่สระอโนดาต นำบิณฑบาตมาจากอุตตรกุรุทวีป ประทับนั่งกระทำภิตกิจในโรงทานกว้างใหญ่ พระสารีบุตรกระทำวัตรปฏิบัติแก่พระบรมศาสดาในที่นั้น
ครั้นเสร็จภัตกิจ รับสั่งกับพระสารีบุตรว่า “วันนี้เราภาษิตธรรมคัมภีร์นี้แก่พระพุทธมารดา เธอจงบอกธรรมนั้นแก่นิสิต ๕๐๐ ของเธอ” แล้วเสด็จกลับไปสู่เทวโลก ทรงแสดงธรรมต่อจากพระพุทธนิรมิตแสดง
ส่วนพระสารีบุตรกลับไปแสดงธรรมนั้นแก่ศิษย์ของท่านเช่นนี้ทุกวันตลอดไตรมาส ภิกษุนิสิต ๕๐๐ เหล่านั้น เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จอยู่ในเทวโลก ได้เป็นผู้ชำนาญในพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ในพรรษานั้นกว่าภิกษุทั้งปวง
ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ภิกษุเหล่านั้นเป็นค้างคาวอาศัยอยู่ที่เงื้อมผาแห่งหนึ่ง ได้ฟังพระเถระ ๒ รูป เดินจงกรมแล้วท่องพระอภิธรรมอยู่ ค้างคาวเหล่านั้นไม่รู้ว่าเหล่านี้ชื่อว่าขันธ์ เหล่านี้ชื่อธาตุ เพียงแต่ถือเอานิมิตในเสียงนั้นเป็นสำคัญ จุติจากอัตภาพนั้นเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติสิ้นพุทธันดรหนึ่ง จุติจากเทวโลกนั้นแล้ว บังเกิดในเรือนตระกูลของชาวกรุงสาวัตถี ได้เห็นพระพุทธองค์ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ มีความเลื่อมใส ขอบวชในสำนักของพระสารีบุตร ได้เป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ ๗ ดังนี้
พระบรมศาสดาทรงแสดงพระอภิธรรมโดยทำนองนั้นตลอดไตรมาส ในกาลจบเทศนา การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่เทวดามากมาย พระพุทธมารดาได้ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล
ครั้นใกล้เวลาจะออกพรรษา บริษัททั้งหลายที่คอยเฝ้ารับเสด็จอยู่ตลอดเป็นเวลา ๓ เดือน ได้ขอให้พระโมคคัลลานะขึ้นไปกราบทูลถามวันเสด็จกลับลงมา กล่าวว่าพวกข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เห็นพระบรมศาสดาแล้วจักไม่ไปจากที่นี้ พระโมคคัลลานะขึ้นไปกราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า “พระองค์จักเสด็จลงเมื่อใด พระเจ้าข้า”
พระพุทธองค์รับสั่งถามถึงพระสารีบุตร ทรงทราบว่าอยู่ที่สังกัสสนคร จึงตรัสกับท่านพระโมคคัลลานะว่า ในวันที่ ๗ จากนี้ เราจักลงที่ประตูเมืองสังกัสสะ ในวันมหาปวารณา ผู้ใดใคร่จะพบเราก็จงไป ณ ที่นั้นเถิด
พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์ ณ ประตูเมืองสังกัสสะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงสาวัตถี ๓๐ โยชน์ ในวันมหาปวารณา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ อันเป็นพุทธกิจที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่ทรงละ สถานที่เหยียบพระบาท ณ ประตูเมืองสังกัสสะ ชื่อว่า อจลเจติยสถาน
วันที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากเทวโลก ท้าวสักกเทวราชรับสั่งให้วิสสุกรรมเทพบุตร เนรมิตบันไดแก้วมณีตรงกลาง สำหรับพระบรมศาสดา บันไดทองอยู่ด้านขวาสำหรับเหล่าเทวดา และบันไดเงินอยู่ด้านซ้ายสำหรับเหล่ามหาพรหม เมื่อพระพุทธองค์เสด็จลง ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร ท้าวสักกเทวราชทรงรับบาตร ท้าวสุยามเทวราช พัดด้วยวาลวีชนีอันเป็นทิพย์ ปัญจสิขเทพบุตรบรรเลงพิณ มาตลีเทพบุตรถือของหอมและดอกไม้ทิพย์นมัสการอยู่ ห้อมล้อมด้วยหมู่เทวดาและพรหม เสด็จลงที่เมืองสังกัสสะ
พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร เป็นผู้ถวายบังคมรับเสด็จก่อนผู้ใด พระอุบลวรรณาเถรี เข้ามาถวายบังคมต่อจากพระสารีบุตร จากนั้นบรรดามหาชนที่ตามมาคอยเฝ้ารอรับเสด็จ ณ ที่นั้น พระพุทธองค์ทรงดำริว่าชนเหล่านี้รู้กิตติศัพท์ของพระโมคคัลลานะในฐานะเป็นผู้เลิศทางฤทธิ์ รู้ว่าพระอนุรุทธะเป็นผู้เลิศทางทิพจักขุ รู้ว่าพระปุณณะเป็นผู้เลิศทางธรรมกถึก แต่บริษัทนี้มิได้รู้จักพระสารีบุตรว่าเลิศด้วยคุณอะไร จึงตรัสถามปัญหากับพระเถระ พระสารีบุตรแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ทั้งปัญหาของปุถุชน พระเสขะและพระอเสขะ
ในครั้งนั้น มหาชนจึงได้รู้จักพระสารีบุตรว่า เป็นผู้เลิศทางปัญญา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สารีบุตรมิได้เป็นผู้มีปัญญาแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในอดีตก็เป็นผู้เลิศด้วยปัญญา แล้วตรัส ปโรสหัสสชาดก แก่มหาชน
ในเดือนแห่งมหามงคล “ทำดีเพื่อพ่อทั้งแผ่นดิน” มอบสิ่งดีที่สุดให้กับคนที่คุณรักและเคารพที่สุด ณ ดินแดนต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา กับกิจกรรมดีๆ ณ ดินแดนต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา
➽เชิญร่วมเดินทางกับคณะแสวงบุญ ฟาฟา ทราเวล ระหว่างวันที่ ๙ ถึง ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ แสวงบุญ ทำบุญ ณ ประเทศอินเดีย เนปาล ๙ วัน ๘ คืน
➽➽ นำพาบุญใหญ่ ด้วยความเมตตาจาก องค์หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉันทาคโม ๕๗ พรรษา ๗๗ ปี วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พระสุปฏิปันโนที่เมตตา นำพาสาธุชน แสวงบุญ ทำบุญ ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ร่วมเจริญจิตภาวนา ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน และสถานที่สำคัญต่างๆตามเส้นทางแสวงบุญ อาทิเช่น เขาคิชฌกูฎ วัดเชตวันมหาวิหาร พร้อมทอดผ้าป่าร่วมบูรณะและก่อสร้างวัดไทย ในประเทศอินเดีย เป็นการร่วมทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเวลาแสวงบุญ
➽➽ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่องค์หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉันทาคโม ได้เดินทางสู่ประเทศอินเดีย เนปาล องค์หลวงปู่เมตตานำพาผู้แสวงบุญ ร่วม ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และ เจริญจิตภาวนา ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล พร้อมทั้งร่วมอุทิศส่วนกุศล สร้างบุญที่ยิ่งใหญ่สุดในหนึ่งชีวิต ณ สถานที่สำคัญต่างๆ ที่ได้จาริกแสวงบุญ
➽➽ พร้อมกันนี้ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ศิษยานุศิษย์ร่วมมุฑิตาสักการะองค์หลวงปู่ ในวันครบรอบอายุ ๗๗ ปีเต็ม ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ มหาเจดีย์พุทธคยา เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย ถือเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่
➽การเดินทาง ฟาฟาทราเวล ได้จัดเส้นทางการเดินทางแบบพิเศษสุดสำหรับ ให้บริการผู้ร่วมแสวงบุญ รวมถึงการดูแลธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ ในราคาที่ประหยัดที่สุด มีเส้นทางการเดินทางและพักผ่อนดังต่อไปนี้ ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาการเดินทางจึงได้เพิ่มเป็น 9 วัน 8 คืน เพื่อให้ทุกท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และพักโรงแรมทั้งหมดทุกวัน
✰วันที่หนึ่ง |วันที่ ๙ ธันวาคม ๕๙ | ออกเดินทางช่วงเย็น เมื่อถึงเมืองโกลกาต้า นำพาทุกท่าน เข้าสู่ที่พักผ่อนโรงแรมพร้อมรับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
✰วันที่สอง |วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๕๙ | บินเครื่องบินภายในประเทศสู่เมืองปัตนะ พาทุกท่านเดินทางแสวงบุญจากเมืองปัตนะ ไวสาลี จนถึงเมืองกุสินารา เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่สาม |วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๕๙ | ร่วมปฏิบัติธรรม ณ กุสินารา หนึ่งในสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ปรินิพพาน จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองลุมพินี เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่สี่ |วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๕๙ | ร่วมปฏิบัติธรรม ณ ลุมพินี หนึ่งในสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล จากนั้นเดินทางสู่เมืองสาวัตถี เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่ห้า |วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๕๙ | ร่วมปฏิบัติธรรม ณ เชตวันมหาวิหาร สถานที่พระพุทธองค์ทรงจำพรรษานานที่สุด และกราบนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆ รอบเมืองสาวัตถี จากนั้นเดินทางสู่เมืองพาราณสี เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่หก |วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๕๙ | ร่วมปฏิบัติธรรม ณ ธัมเมกสถูป เมืองสารนาถ หนึ่งในสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาธรรม ร่วมสวดมนต์ธัมมจักกัปวัตนสูตร เรียนให้รู้ถึงการเกิดขึ้น และจบสิ้น ด้วยการดับลงในที่สุด.และกิจกรรมอื่นๆ ณ เมืองพาราณสี อาทิเช่นการล่องเรือ ณ แม่น้ำคงคา จากนั้นเดินทางสู่เมืองพุทธคยาเข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่เจ็ด |วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๕๙ | ร่วมปฏิบัติธรรม ณ พุทธคยา หนึ่งสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ตรัสรู้ ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ คณะศิษยานุร่วมสวดมนต์ เจริญจิตภาวนาและ มุฑิตาสักการะองค์หลวงปู่พร้อม อาราธนานิมนต์ องค์หลวงปู่ขอความเมตตาแสดงพระธรรมเทศนา แก่สาธุชน ณ บริเวณใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ช่วงค่ำพักผ่อน เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่แปด |วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๕๙ | เดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฎ ยอดเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก กราบสักการะและนมัสการมูลคันธกุฎิ กุฎิหลังแรกที่พระพุทธองค์ พร้อมทั้งสถานที่สำคัญ ณ เมืองราชคฤห์และนาลันทา จากนั้นเดินทางเพื่อต่อเครื่องบินภายในประเทศ จากปัตนะ สู่เมืองโกลกาต้า เข้าสู่ที่พักโรงแรม
✰วันที่เก้า |วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๕๙ |หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย พาทุกท่านเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
ฟาฟา ทราเวล จึงขอเรียนเชิญ ท่านที่มีความสนใจร่วมเดินทาง จาริกแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในครั้งนี้ ถือเป็น รอบการเดินทางที่พิเศษที่สุด ที่ทางฟาฟา ทราเวลได้ตัดสินใจ จัดรอบการเดินทางพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะนำพาทุกท่านได้แสวงบุญ และเดินทางอย่างสบาย พักผ่อนสบาย เพื่อให้กายพร้อมที่จะปฏิบัติธรรม ณ สถานที่สำคัญต่างๆ
➽ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางอยู่ที่ ๔๒,๕๐๐ บาทต่อท่าน สำหรับท่านที่เดินทางท่านเดียว จะมีค่าใช้จ่ายในการพักห้องเดี่ยวเพิ่มเติม
➽พักโรงแรมระดับ๓-๔ดาว ๘ คืน พักห้องละ๒ ท่าน
➽เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ ๓๔ ที่นั่ง
➽บินสายการบินระหว่างประเทศ Indigoจาก กรุงเทพ-โกลกาต้า
➽บินโดยสายการบินในประเทศ จำนวน ๒ รอบ จาก โกลกาต้า-ปัตนะ และจาก ปัตนะ-โกลกาต้า
รายละเอียดเพิ่มเติมโทรสอบถามได้ที่ ๐๘๙-๑๐๙๔๔๕๕ (089-1094455) หรือ ไลน์มาที่ fafatravel
แสวงบุญ + อินเดีย + ทัชมาฮาล พักโรงแรม 4 ดาว พบกับสุดยอดอาหาร ชิมไก่แทนดอรี่ ขั้นเทพ เมืองเดลี พบกับสุดยอดทริปแห่งปี จัดแค่ครั้งเดียว จองด่วน https://goo.gl/QSC9j9
พิเศษเหนือใคร บินภายในไปพุทธคยา CCU-PATNA พบกับเที่ยวบินสุดสบาย เดินทางออกจาก กทม ช่วงเย็น พักผ่อน ณ โรงแรมเมือง โกลกาต้าให้หายเหนื่อย 1 คืน ก่อนแสวงบุญ พร้อมอาหารเย็นและอาหารเช้า ฟรี !!!!!! ก่อนเดินทางแสวงบุญ
Bodhgaya | Varanasi | Kushinagar | Lumbini | Rajgir | Nalanda | Vaishali | Saravasti | Lucknow | Sankasia | Agra | Delhi
โทร 089.109.4455 / 095.956.1811 /095.816.5225 /02.512.5568
LINE ID: fafatravel
เดินทาง 19-28 พย.59 (10 วัน 9 คืน)
สายการบิน Indigo และบินภายในไปกลับ CCU-PAT/DEL-CCU
พักโรงแรม 6 คืน และพักวัด 3 คืน
ขนาดกรุ๊ป 28 ท่าน
[wp-svg-icons icon=”checkmark-2″ wrap=”i”]พิเศษพักโรงแรม 4 ดาว ก่อนบินภายใน ณ เมืองโกลกาต้า
[wp-svg-icons icon=”checkmark-2″ wrap=”i”]พิเศษอาหารเย็น ณ วันเดินทางถึงเมืองโกลกาต้า
[wp-svg-icons icon=”checkmark-2″ wrap=”i”]พิเศษรถรับส่งระหว่างสนามบิน ถึงโรงแรมที่พัก
[wp-svg-icons icon=”checkmark-2″ wrap=”i”]พิเศษบินภายในจาก CCU – PAT
ทั้งหมดนี้เราจัดให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ในรอบแสวงบุญ
ระหว่างวันที่ 19-28 พฤศจิกายน 59 กรุ๊ป(28) สถานะตอนนี้ ใกล้เต็มแล้ว
ข้อเสนอดีดี แบบนี้ เพียงท่านร่วมเดินทางกับเรารอบใดรอบหนึ่ง
19-28 พฤศจิกายน 59 ราคา 43,900 บาทต่อท่าน
สำหรับที่พัก เราขอรีวิว ที่พักแรก ณ เมืองโกลกาต้า เราเดินทางถึงอินเดียอยากให้ทุกท่านมีรอยยิ้มและความสุข
ตัวอย่างโรงแรมที่เราเลือกใช้คือเกรดมาตรฐานเช่น Pipal Tree Hotel Kolkata *หรือเทียบเท่า
ขอให้ทุกท่านทีความสุขในการเดินทางแสวงบุญ และทำบุญใหญ่ ณ ประเทศอินเดีย
ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์โรงแรม http://pipaltreehotel.com
ฟาฟา ทราเวล ร่วมถวายเทียนและปัจจัยร่วมบุญสร้างกุฏิสงฆ์ 1,000 บาท ถวายวัดพันเสา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลวงพ่อบุญล้อมเจ้าอาวาสวัด ท่านเมตตาให้พรกับคณะทำงาน ฟาฟา ทราเวล คิดหวังในสิ่งที่ดีก็ขอให้สำเร็จลุล่วง และหลวงพ่อได้ขอร่วมเดินทางแสวงบุญไปกับคณะแสวงบุญ ในรอบเดือนพฤศจิกายน นี้แน่นอน อย่างน้อย 1 ที่
ขอขอบคุณในความเมตตาของหลวงพ่อที่ไว้วางใจกับ ฟาฟา ทราเวล ร่วมเดินทางแสวงบุญไปกับเรา สาธุครับ 12 สค 59