พระวัชรปาณีโพธิสัตว์ ภาพเขียนอายุกว่าพันปี ณ ถ้ำอชันต้า ประเทศอินเดีย

✰Bodhisattva Vajrapani (พระวัชรปาณีโพธิสัตว์)

ภาพเขียน ณ ห้องหมายเลข๑ ถ้ำอชันต้า ประเทศอินเดีย ด้านขวามือขององค์พระประธาน เคียงข้างกับ Bodhisattva Avalokitesvara (พระปัทมปาณีโพธิสัตว์ (ปางหนึ่งของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์)
✰ภาพเขียนนี้พระสงฆ์นิกายมหายาน ได้วาดภาพขึ้น อายุหนึ่งพันกว่าปี เพื่อน้อมนมัสการถึงความสำคัญของเหล่าพระโพธิสัตว์ พระผู้ทรงสายฟ้าในพระหัตถ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการฟาดฟันกิเลส ตัณหาทั้งปวง ชาวพุทธมหายานถือว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีความสำคัญมาก

“วัชระปาณี” หมายถึง ผู้ทรงวัชระไว้ในฝ่ามือ พระองค์ทรงเป็นองค์คุณแห่งพลัง แห่งความสำเร็จ ซึ่งไม่อาจทำลายได้ ผู้ที่กราบไหว้พระวัชรปาณีเชื่อว่าพระองค์สามารถขจัดอุปัทวันตรายทั้งปวง

ชาวธิเบตจึงเชื่อกันว่า หากจิตใจบรรลุถึงแสงสว่างแห่งธรรมได้แล้ว ก็จะสามารถตัดม่านหมอกแห่งความ
โง่เขลาหรือความไม่รู้ให้หมดไปได้ รวมทั้งความสับสนว้าวุ่นใจที่มีอยู่ในจิตใจของปุถุชนทั่วไป

วัชระ ธิเบตเรียกดอร์เจ เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา ความกล้า และพละ หรือความเที่ยงตรงแห่งพระนิพพาน อันถือว่าเป็นปุริสภาวะ ซึ่งก็คือมณีฟ้า ทั้งแหลมคมและแข็งแกร่ง สามารถทำลายอกุศลมูลทุกประการโดยไม่มีสิ่งใดต้านทานได้

สนใจร่วมแสวงบุญระหว่างวันที่ 20-25 มีนาคม2560

เดินทางสู่แดนพุทธเกษตร และตามรอยมหาโพธิสัตว์ ณ ถ้ำอชันต้า เอลโรล่า ได้ที่ line:fafatravel หรือโทร 0891094455

Loading

เชิญชมภาพ ความประทับใจ สำหรับทริปที่ผ่านมา และร่วมแสวงบุญไปกับเรา

ร่วมเดินทางแสวงบุญไปกับ ฟาฟา ทราเวล

พร้อมข้อเสนอพิเศษ มากมาย ดูแลเป็นอย่างดี ที่พักสะอาดปลอดภัย อาหารอร่อย  กับทีมงานทั้งฝั่งไทยและอินเดีย ที่คอยบริการคุณตลอดการเดินทาง พร้อมพระวิทยากร และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่จะเมตตา นำปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ราคามิตรภาพ โทรสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติม โทร 089-1094455 หรือ LINE:fafatravel

สามารถชมภาพความประทับใจได้ที่

https://www.facebook.com/fafaontour/

Loading

รีวิวที่พัก ระดับ5ดาว ที่ฟาฟา ทราเวล จัดให้แบบจัดเต็มที่เดลีในทริป พย.59 ที่ผ่านมา

รีวิวที่พักและห้องอาหาร เมืองเดลี ที่ทางฟาฟา ทราเวล

จัดทริปเดือน พฤศจิกายน 59 ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าจัดเต็มจริงๆ

พัก โรงแรม Country Inn & Suites – by Carlson Delhi Satbari ระดับ 5 ดาว

พร้อมอาหารค่ำ และอาหารเช้าแบบจัดเต็ม รับรองไม่ผิดหวัง
 
สนใจร่วมทัวร์ครั้งต่อไป ติดต่อ 089-1094455 LINE: fafatravel

Loading

เส้นทางการบินที่แสนสบาย

960-P3252245

เดินทางวันแรก เพราะเหตุใดเราจึง จัดบินแบบนี้?

รอบการบิน ทำไมใช้เครื่องบิน Indigo ?

ตอบ:  มีหลายปัจจัย ไม่ใช่ว่าเพราะทัวร์อยากได้กำไรสูงสุดแต่ตรงกันข้าม เมื่อเราเลือกใช้ Indigo เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกมากมาย อาทิเช่น ค่าตั๋วเครื่องบินภายในทั้งไปและกลับ ค่าห้องพักโรงแรม ค่าอาหารเย็น ค่าอาหารเช้า ค่าจ้างรถรับส่งจากสนามบินไปที่พัก ไปและกลับ และอื่นอีกมาก รวมๆแล้วอาจแพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบินของอีกบางสายการบินก็ได้ แต่!!!! ขอย้ำว่า แต่!!! มันไม่ใช่ปัจจัยที่เราต้องการ เราต้องการให้ทุกท่าน ที่มาร่วมแสวงบุญกับเรา ได้รับบริการที่ดี ในราคาที่เหมาะสมเนื่องจากในสภาพเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญ การเลือกสายการบินเดินทางก็ส่งผลต่อราคาทัวร์เป็นอย่างมาก นอกจากราคาค่าตั๋วแล้ว รอบการเดินทางก็เป็นปัจจัยสำคัญ เราต้องมองให้ลึก เราต้องเอาใส่ใจต่อลูกค้า เรื่องเล็กๆบางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางท่าน ยกตัวอย่าง การทานอาหาร ถ้าทัวร์ที่จัดมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระเถระ เดินทางร่วมแสวงบุญไปด้วย ถ้าเราเลือกรอบที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องอาหารเช้าและเที่ยง ถ้าเราไม่สามารถจัดหาให้ท่านได้ทัน ท่านก็คงไม่ได้ฉันอาหารอีกเป็นแน่ นี่เป็นหัวใจที่เราเลยต้องคำนึงถึงสูงสุดเป็นอันดับแรก

เพราะการชี้แจงว่าทำไมเราเลือกรอบบินตรงนี้กันเลย ว่ามันคุ้มอย่างไร

บินแบบเรา Indigo และต่อเครื่องอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาบิน 1ชม45นาที และต่อเครื่องในวันรุ่งขึ้นตอนเช้าใช้เวลาต่อเครื่องบิน 45 นาที  ท่านจะได้รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนก่อนเดินทางต่ออีก 1 คืน ณ โรงแรมที่พัก และได้รับประทานอาหารเช้าก่อนบินภายใน เมื่อบินภายในถึงที่หมาย ท่านก็ได้ทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารเมืองปัตนะ ถือว่าเป็นเส้นทางที่สะดวกสบาย ต่อการพักผ่อน และรับประทานอาหาร ~ค่าตั๋วปานกลาง เราขอนำงบค่าตั๋วมาจัดให้ท่านสบาย ณ โรงแรมที่พัก

บินตรงคงคยา ใช้ระยะเวลาบิน 2 ชม 45 นาที รอบบินจะออกจาก กทม 10.30 ถึงคยาประมาณบ่ายโมง โดยส่วนมากทัวร์จะให้ท่านรับประทานอาหารเที่ยงบินเครื่องบิน ค่าตั๋วแพงมาก

บินภายในต่อเครื่องที่เดลี ใช้ระยะเวลาบินจากไทยไปเดลี 4 ชม และรอต่อเครื่องบินอีก 1 – 2 ชม. และท่านต้องวิ่ง4X100  เพื่อต่อเครื่องให้ทัน ถึงเดลีเที่ยง เครื่องออกจากเดลีไปคยา บ่ายโมงครึ่ง ใช้ระยะเวลาบินจาก เดลี ไปคยาอีก 2 ชม ถึงคยาประมาณ บ่าย3โมงครึ่งเป็นอย่างเร็วถ้าเครื่องไม่ดีเลย์ รวมการเดินทางต้องออกจากไทยประมาณ 8.00น. ถึงคยา 15.30 น.  เป็นอย่างเร็ว ทัวร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านรับประทานอาหารเช้าและเที่ยงบินเครื่องบินของสายการบิน (อาหารแขก~ฟาฟา ทราเวลเคยใช้บริการแล้ว ~พอทานได้ครับ ) ค่าตั๋วแพง

เห็นความใส่ใจที่เราตั้งใจมอบให้กับท่าน ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ท่านลองชั่งใจดีๆ ในการเลือกเดินทางแสวงบุญ การเดินทางแสวงบุญก็เหมือนการไปเที่ยว ไปทัวร์เช่นกัน เราขอแนะนำบริการดีๆ จากฟาฟา ทราเวลให้ท่านได้เลือกใช้บริการ แม้เราจะเลือกใช้สายการบิน lowcost จากอินเดีย แต่เราก็ขอเสริมพิเศษให้กับท่าน เพียงท่านใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชม 45 นาที เท่านั้นและตรงเข้าพักผ่อนยังโรงแรม 4 ดาวที่เราจัดไว้ให้ จะคุ้มค่าและประหยัดเงินในการแสวงบุญเป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุผลหลักที่เราเลือกจัดแผนการเดินทางแบบนี้ เพื่อลูกค้าจะได้สบายที่สุด ในราคาที่ประหยับที่สุด ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

ขอบคุณที่ไว้ใจ และเลือกใช้บริการจากเรา ฟาฟา ทราเวล

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

เส้นทางแสวงบุญ กุสินารา สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล อินเดีย เนปาล

 

ปรินิพพตสถาน พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ กุสินารา

การดับรอบความปราศจากกิเลสที่ร้อยรัดคือการดับสนิท ดับด้วยไม่เหลือแห่งกิเลสและกองทุกข์ ที่ใต้ต้นสาละคู่ ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงเตือนสติ ไม่ให้ประมาท ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนวิสาขะ วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า มีพุทธโอวาทความว่า “เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจงบำเพ็ญไตรสิขาคือ ศีล สมาธิ ปัญญาให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด “


การเดินทางสู่เมือง กุสินารา

เมืองกุสินารา หรือ กาเซีย เป็นสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล แห่งสุดท้ายสถานที่ พระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน ใต้ต้นสาละ

map-kusi

การเดินทางมาสู่เมืองกุสินารา โดยทั่วไปจะใช้เส้นทางรถยนต์ ระยะทางจากเมืองปัตนะมายังกุสินารา ประมาณ 350 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาประมาณ 6 ชม หรืออีกเส้นทางหนึ่งคือ จากพาราณสี มายังกุสินารา ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร ระยะเวลาประมาณ 6 ชม โดยผ่านเมืองใหญ่คือเมือง โครักขปูร์(Gorakhpur) ซึ่งห่างจากกุสินาราประมาณ 50  กิโลเมตร ในบางทริปที่แสวงบุญ ทางฟาฟา ทราเวลได้จัดให้พัก ณ เมืองโครักขปูร์ เนื่องจากช่วยลดระยะเวลาการเดินทางสู่ลุมพินีและกุสินาราได้ดีและห้องพักที่สะอาดและปลอดภัย

จาริกแสวงบุญ ณ เมืองกุสินารา

เมื่อเดินทางมาถึงเมืองกุสินารา สังเวชนียสถานที่สำคัญจุดหนึ่ง เป็นจุดที่ให้ระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน เป็นจุดที่เราทุกคนพึง ระลึกอยู่เสมอว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ตามพุทธโอวาสที่ได้กล่าวไว้ว่า  “เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจงบำเพ็ญไตรสิขาคือ ศีล สมาธิ ปัญญาให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด ” สถานที่สำคัญแห่งนี้ ในการจาริกแสวงบุญและกิจกรรมต่างๆมีดังต่อไปนี้

ณ บริเวณพุทธปรินิพพานวิหาร และพระสถูปเจดีย์

จุดที่สำคัญที่สุดในเมืองกุสินารา สถานที่พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน ภายในบริเวณประกอบไปด้วยสวนไม้สาละ และ วิหารที่ตั้งของพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน ที่แสดงถึงพระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธ์ ณ จุดแห่งนี้ รวมไปถึงพระสูปเจดีย์ด้านหลังวิหาร ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่องค์พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธ์ ณ จุดแห่งนี้ บรรยากาศบริเวณพุทธปรินิพพานสถาน มีความสลดหดหู่ ตรึงไว้ด้วยความอาลัยเศร้า เปรียบเสมือนองค์พระพุทธองค์ได้ทรงสอนให้แก่ผู้มาจาริกแสวงบุญไว้ว่า ร่างกายเรานั้นไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน เมื่อเรามาจาริก ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้ต้องตระหนักในจิตใจอยู่สม่ำเสมอ และพิจารณาอยู่เป็นดิจ ในความไม่เที่ยงนี้

สำหรับการแสวงบุญและสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นนั้น ทางฟาฟา ทราเวลได้ร่วมกับคณะแสวงบุญในทุกๆทริปร่วมกันจัดทำ ผ้าห่มคลุมองค์พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ถวายยังสถานที่สำคัญแห่งนี้ และร่วมกันสวดมนต์บูชาพระพุทธองค์ พร้อมร่วมเจริญจิตภาวนา ณ สถานที่แห่งนี้



ภาพกิจกรรมการจาริกแสวงบุญ ณ สาลวโนทยาน

ณ มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ

จุดสำคัญอีกหนึ่งจุด ณ สังเวชนียสถานแห่งนี้ คือ มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ที่ระบุไว้ว่า เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ห่างจาก สาลวโนทยานประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในบริเวณจะมีสถูปเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ให้พึ่งระลึกเสมอว่า ณ จุดแห่งนี้เป็นที่ถวายพระเพลิง ในการจาริกแสวงบุญ ณ สถานที่แห่งนี้เราจะร่วมกันปลงอนิจจัง ณ สถานที่แห่งนี้ พร้อมทั้งแผ่เมตตา แผ่ส่วนบุญส่วนกุศล ให้กับญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วในทุกๆชาติ ที่เรารู้จักอยู่ก็ดี ไม่รู้จักอยู่ก็ดี ตลอดจนผู้มีพระคุณ นายพระคุณต่างๆ รวมไปทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่เราระลึกได้อยู่ก็ดี ระลึกไม่ได้อยู่ก็ดี พร้อมทั้งเทพเทวา ที่ปกปักรักษาเราและสถานที่สำคัญแห่งนี้ ได้พึงมารับส่วนบุญ ส่วนกุศล และร่วมโมทนาบุญกับคณะแสวงบุญ จากที่เราได้เพียรบำเพ็ญมาแล้ว ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้ พร้อมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล


ภาพกิจกรรม ณ มกุฎพันธนเจดีย์


สถานที่ โทณพราหมณ์ จัดสรรแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ

สถานที่อีกหนึ่งจุด ที่คณะแสวงบุญ จะได้ร่วมกันกราบไหว้พร้อมนั่งสมาธิ อธิษฐานจิต ณ จุดที่โทณพราหมณ์ จัดสรรแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอยู่บริเวณข้างวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ในส่วนนี้คณะแสวงบุญ จะร่วมกันนั่งสมาธิอธิษฐานจิต ตามบุญวาสนา ของแต่ละท่าน ถ้าเทพเทวาอนุเคราะห์ อาจเป็นไปได้ว่าบุญของผู้แสวงบุญได้รับพระบรมสารีริกธาตุ จะเสด็จลงมา ณ สถานที่แห่งนี้ (เป็นความเชื่อส่วนตัว) ก็เป็นไปได้ ถือว่าเป็นบุญของท่านนั้นๆ ที่อาจจะได้รับ

ภาพกิจกรรม ณ สถานที่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ


วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

สถานที่สำคัญอีกหนึ่งจุด ที่คณะแสวงบุญ จะได้ร่วมกันทอดผ้าป่าสร้างวัดไทย ณ เมืองกุสินารา ประวัติความเป็นมา วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ๑ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ตั้งอยู่ที่เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย เริ่มการก่อสร้างตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๗ ภายใต้ดำริของพระสุเมธาธิบดี อดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุฯ โดยมีพระราชรัตนรังษี (ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.๒๕๔๒ ด้วยแรงศรัทธาของคณะสงฆ์ไทย คณะพุทธบริษัทชาวไทย และชาวพุทธในประเทศอินเดีย พร้อมใจกันสร้างขึ้น ณ เมืองกุสินารา อันเป็นสังเวชนียสถานที่ดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาคืนสู่มาตุภูมิ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา และเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗๒ พรรษา (ข้อมูลจากเว็บไซต์ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ )


ข้อมูลต่างๆจากทางวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ )

พระมหาเจดีย์ “พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธา”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรีชาสามารถในงานสถาปัตยกรรมไทยอย่างแท้จริง ดังได้พระราชทานฝีพระหัตถ์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกร พร้อมทั้งยังพระราชทานคำวินิจฉัยเป็นลำดับ และตั้งแต่เริ่มแรกการออกแบบ พระองค์ท่านยังแสดงถึงความเป็นพุทธมามกะที่พร้อมจะถวายกุศลอันยิ่งใหญ่แก่พระศาสนา โดยพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างนับแต่มีพระบรมราชวินิจฉัยในเบื้องต้น และเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อนำไปใช้เป็นทุนในการทำนุบำรุงให้ยั่งยืนตลอดไป อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุกลับสู่แดนพุทธภูมิ และเส้นพระเจ้า เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานในพระธาตุเจดีย์ที่ได้มีพระราชกระแสรับสั่งแก่ผู้ใกล้ชิดว่า “เจดีย์ของฉัน”

แนวความคิดในการออกแบบตามพระราชดำริ 

รูปแบบทางสถาปัตยกรรม-ผู้ออกแบบต้องการให้แสดงออกถึงความเป็นงานสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งมีการประสมประสานลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมของธาตุเจดีย์ที่ปรากฏในประเทศไทยมาแต่โบราณ ทั้งนี้ความสูงโดยรวมของพระมหาเจดีย์จะไม่สูงเกินกว่าพระสถูปปรินิพพานที่สวนวโนทยาน (สาลวโนทยาน) คือสูงรวมไม่เกิน ๑๙ เมตร สถาปนิกได้ออกแบบโดยคำนึงถึงขนาดและสัดส่วนที่สวยงามภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว

ประโยชน์ใช้สอยอาคาร – แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งเป็นส่วนที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุประกอบเครื่องบูชา ซึ่งจะอยู่ในแกนกลางพระมหาเจดีย์ ส่วนที่สองคือพื้นที่ใช้งานของพุทธบริษัท ซึ่งมีพื้นที่ส่วนที่มีหลังคาคลุม สามารถปฏิบัติบูชาสักการะได้แม้ในขณะเวลากลางวันที่มีอากาศค่อนข้างร้อน และพื้นที่ส่วนเปิดโล่งรอบนอกที่ใช้เป็นลานประทักษิณเมื่อมีคนจำนวนมากได้

ออกแบบโดย อาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานมาเพื่อประดิษฐานไว้ภายในพระมหาเจดีย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรพระมหาเจดีย์ พระมหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๘

———————————————————–

            เจดีย์มีไว้เป็นอนุสรณ์ คือ เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพื่อเตือนใจให้น้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณและคำสอนของพระองค์แล้วตั้งใจนำมาประพฤติปฏิบัติ เราเรียนรู้ธรรมหรือจำมาได้บ้าง แต่บางทีชินชาไป พอเห็นพระพุทธรูปหรือพระเจดีย์ก็นึกขึ้นได้ หรือสำทับกับตัวเองให้มั่น ให้มีกำลังตั้งใจปฏิบัติ อย่างน้อยเข้าไปใกล้ได้เห็นพระเจดีย์แล้ว ใจโน้มไปในความสงบเบิกบานผ่องใส ก็เป็นบุญเป็นกุศล ไม่ใช่จะเอาความใหญ่โตหรือไปแข่งขนาดกับใคร

            พระสถูปเจดีย์ที่ตรัสรู้ และปรินิพพาน เป็นต้น ในอินเดียนั้นแม้เวลาล่วงไป ๒๕๐๐ กว่าปี ชาวพุทธก็เพียรพยายามเดินทางไปนมัสการกันไม่ขาด ตั้งใจไปกันจริงจัง และนับวันจะไปกันมากขึ้น คนไปแล้วก็ไปอีก บางคนไปมากมายหลายครั้ง แล้วก็ไม่ได้ติดใจว่าจะไปชมความใหญ่โตมโหฬาร 

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต)


ที่พักและอาหาร

ในทริปการแสวงบุญ ณ เมืองกุสินารา ทางฟาฟา ทราเวล เลือกใช้บริการคือ โรงแรมที่พักในเมืองกุสินารา มาตรฐานสูงสุด ณ เมืองกุสินารา เช่น Lotus nito เป็นต้น โดยในบางทริปก็จะนำพาทุกท่านพักยัง วัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ ซึ่งห้องพักจะแยกชายหญิง และพระ เป็นระเบียบเรียบร้อย และสะอาดพร้อมแต่ละห้องพักได้ 4-5 ท่าน พร้อมห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว ซึ่งถ้าทริปที่เข้าพัก ณ วัดไทยกุสินารา ทุกท่านจะได้ร่วมทำบุญผ้าป่า และชำระหนี้สงฆ์ พร้อมทั้งรับประทานอาหาร ณ วัดไทยกุสินารา เช่นกัน

krm-P3231915 krm-P3231914 krm-P3231917


[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

เส้นทางแสวงบุญ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับคุณ ฟาฟา ทราเวล

ขอบคุณจากใจ ลูกค้าของเรา ฟาฟา ทราเวล


Screen Shot 2559-08-19 at 15.45.23

mai-customer

Screen Shot 2559-08-19 at 16.05.23


และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ดีดีๆ และบริการดีๆที่เรามอบให้

vn-PB114734

vn-PB114724

vn-PB114723

vn-PB114716

แทนคำขอบคุณจากใจ ทีมงานฟาฟา ทราเวล

การเดินทาง แสวงบุญ วันนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น มิใช่จุดสุดท้ายของการเดินทาง

โทร 089.109.4455  / 095.956.1811 /095.816.5225 /02.512.5568

LINE ID: fafatravel

Loading

ข้อมูลแสวงบุญ สารนาถ พาราณสี สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล อินเดีย เนปาล

ธัมมจักกัปปวัตตสถาน สถานที่แสดงธรรม

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ สารนาถ

สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาที่ป่าอิสปตนมฤคทายวันแขวงพาราณสี ปัจจุบันเรียกว่าเมืองสารนาถ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตรพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ว่าเป็นทางสายกลางทำให้เกิดดวงตาเห็นธรรม ทำให้เกิดปัญญา เป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อการตรัสรู้(คือรู้แจ่มแจ้ง) และเพื่อพระนิพพาน (สภาพที่ดับกิเลสและทุกข์ทั้งปวง) เหตุการณ์ที่สำคัญคือ วันพระธรรมจักรคือ วันที่ล้อแห่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมุนไปเป็นครั้งแรก วันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในวันอาสฬหบูชา กิจกรรมสำคัญยิ่งที่ผู้ร่วมแสวงบุญเมื่อได้เดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้คือ การร่วมสวดมนต์ธัมจักรกัปปวัตนสูตร ณ ธัมเมกขสถูปเมืองสารนาถ พร้อมทั้งชมพระพุทธรูปปางแสดงพระธรรมเทศนา ณ พิพิธภัณฑสถานเมืองสารนาถ พร้อมทั้งร่วมเดินทางสู่แม่น้ำคง เพื่อล่องเรือชมวิธีชีวิตของชาวเมืองพาราณสี ในแบบฉบับที่ท่านจะไม่เคยพบมาก่อน


ธัมเมกขสถูป สารนาถ (มฤคทายวัน)

map-varanasiสังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ เมืองสารนาถ ตั้งอยู่เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ห่างจากตัวเมืองพาราณสีประมาณ ๑๕ กิโลเมตร สารนาถเป็นสถานที่สำคัญในประวัติพระพุทธศาสนาเป็นสถานที่ ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา ธรรมจักรกัปวัตนสูตร เพื่อโปรดเหล่าปัจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งปัจจุบันเรียกบริเวณนี้ว่าเมืองสารนาถ ภายในเมืองสารนาถประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาดังต่อไปนี้

ภาพเมืองสารนาถ ภาพจากเว็บ http://www.pbcindia.org/gallery/welcome-orgyen-samye-chokhor-ling
ภาพเมืองสารนาถ ภาพจากเว็บ http://www.pbcindia.org/gallery/welcome-orgyen-samye-chokhor-ling

ธัมเมกขสถูป

สถูปที่แสดงให้เห็นว่า สถานที่ตำแหน่งนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาธรรม ณ จุดแห่งนี้ สถูปแห่งนี้เป็นอนุสรเตือนสติเพื่อให้ระลึกถึงกุศลธรรม ผู้เห็นธรรมคือ พระอัญญาโกณทัญญะ สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.269-311) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด และอาจมีการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อเติมขึ้นมาในสมัยราชวงศ์คุปตะ (ราว พ.ศ.900-1100) เพราะแผ่นอิฐด้านในพระสถูปนั้น มี อายุเก่าแก่กว่าแผ่นอิฐด้านนอก และลวดลายที่ปรากฏบนองค์พระสถูปด้านนอกนั้นเป็นลวดลายใบไม้ ดอกไม้ นก และรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมมากในสมัยคุปตะ

นอกจากนี้แล้วบริเวณยังมีส่วนที่สำคัญดังต่อไปนี้

  • เสาอโศก หรือ เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช
  • พระมูลคันธกุฏี หรือ “พระมูลคันธกุฏีวิหาร” ภายในอาณาบริเวณสารนาถในปัจจุบัน
  • พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ในพิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี  ซึ่งถูกขุดพบ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
    ที่มีผู้ยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งามที่สุดในโลก สร้างขึ้นในยุคสมัยคุปตะ (Gupta Period) เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๘๐๐-๑๒๐๐
  • เสาหัวสิงห์ ๔ ทิศ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี

สำหรับการจาริกแสวงบุญ ทางคณะแสวงบุญจะนำพาทุกท่านร่วมกิจกรรมบุญมากมาย อาทิเช่น

  • ร่วมปทักษิณา เวียนเทียนรอบธัมเมกขสถูปเป็นพุทธบูชา
  • ร่วมสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา พร้อมร่วมกันสวดมนต์บทธรรมจักรกัปวัตนสูตร เป็นพุทธบูชา ณ บริเวณสังเวชนียสถานที่สำคัญ จุดนี้
  • ปิดทองคำเปลวเป็นพุทธบูชา ณ พระมูลคันธกุฏิ เมืองสารนาถ
  • ชมปฏิมากรรมที่สำคัญยิ่ง ณ พิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี

SARNATH

SARNATH:It is said that Lord Buddha delivered his first sermon after attaining enlightenment here in Sarnath.The buildings and monuments of Sarnath were built by the emperor Ashoka.

VISIT:Chowkhandi Stupa,Dhamekha Stupa,Ashok Pillar,Deer Park.


ภาพประทับใจและกิจกรรมต่างๆ ณ เมืองสารนาถ

พาราณสี ล่องเรือ ณ แม่น้ำคงคา

เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดู ต้องมาสักการะยังแม่น้ำคงคา เส้นทางสายน้ำที่ชาวเมืองพาราณสีและชาวอินเดียต้องมาทำพิธีอาบน้ำในช่วงเช้าของทุกวัน ทุกท่านจะได้พบกับวิธีชีวิตของชาวเมืองพาราณสีริมฝั่งแม่น้ำคงคาในยามเช้า พร้อมล่องเรือ ชมสถานที่สำคัญต่างๆรอบแม่น้ำคงคา อาทิเช่น ณ จุดที่เผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคา จะมีศพถูกนำมาเผาวันละประมาณ ๘๐-๑๐๐ ศพ ซึ่งท่าน้ำในเมืองพาราณสีมี ท่าน้ำทั้ง ๕ คือ ท่าอัสสี ท่าทศอัศวเมธ ท่าปัญจคงคา ท่ามณิกรรณิกา และท่าอธิเกศวร ที่สำคัญที่ชาวฮินดูต่างมาสักการะ

ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในหนึ่งวันจะอาบน้ำเพียงหนเดียวคือในยามเช้า โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่แถบริมแม่น้ำคงคา เนื่องด้วย ๑. เป็นการชำระร่างกายอันเป็นกิจประจำ ยังถือเป็นน้ำที่ล้างบาปไปด้วยในตัว ๒. การอาบในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการขอพรและบูชาพระสุริยเทพต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

PB114696ฝั่งของแม่น้ำคงคามี ๒ ฝั่ง คือ ฝั่งสวรรค์ และอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามคือ ฝั่งนรก

ณ สถานที่แห่งนี้ทุกท่านๆจะได้ร่วมปลงสังเวช ร่างกายนี้เมื่อหมดลมหายใจไม่สามารถนำอะไรติดตัวไปได้เลย เหลือเพียงเถ้าถ่าน ดังคำของพระพุทธองค์ที่ว่า

มะระณะธัมโมม๎หิ เรามีความตายเป็นธรรมดา

มะระณังอะนะตีโต  เราจะล่วงความตายไปไม่ได้

vns-PB114699



[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

ข้อมูลแสวงบุญ-ลุมพินี-

ชาตสถานสถานที่ประสูติ

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ สวนลุมพินีลุมพินีวัน

สถานที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติเป็นสังเวชนียสถานหนึ่งในสี่ตำบลที่สำคัญอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงประสูติได้ครู่หนึ่งทรงยืนได้อย่างมั่นคง ด้วยพระบาททั้งสองที่เสมอกันทรงผิน พระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ทรงดำเนินไป ๗ ก้าวทอดพระเนตรไปยังทิศต่างๆ แล้วทรงเปล่งพระอาสภิวาจา

“เราคือผู้เลิศของโลก เราคือผู้เจริญที่สุดในโลก เราคือผู้ประเสริญที่สุดของโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว”


ลุมพินีวันสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ตำบลลุมบินเด อยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสด์กับกรุงเทวทหะ ในปัจจุบันพื้นที่สวนลุมพินีวัน อยู่ห่างจากชายแดนประเทศอินเดีย เข้าไปยังประเทศเนปาลประมาณ ๒๕ กิโลเมตร การจาริกแสวงบุญยัง สังเวชนียสถานแห่งนี้ ถือเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างอโศกขึ้นเพื่อเป็นที่จารึกว่า พระพุทธองค์ทรงประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้

  • สวดมนต์เจริญจิตภาวนา ณ สถานที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ บริเวณเสาอโศกที่บันทึกไว้ในอักษรพราหมณี ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประสูติ
  • มายาเทวีวิหาร ภายในมีรูปพระนาง สิริมหามายาเทวีแกะสลักด้วยหิน ยืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละ และข้างหน้าเป็นรูปเจ้าชายสิตธัตถะ กำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของชาวพุทธในเนปาล
  • วัดไทยลุมพินีที่สร้างถวายเป็นพุทธบูชา
  • รูปปั้นพระพุทธเจ้าน้อย หน้าทางเข้าลุมพินีวัน

การเดินทางมายังลุมพินีวัน

สามารถเดินทางได้ ๒ วิธีโดยส่วนใหญ่คือ

  • เดินทางตามแผนการจาริกแสวงบุญสังเวชนียสถานโดยรถยนต์ส่วนตัว ส่วนใหญ่แล้วทุกๆทริปการเดินทาง จุดเมืองลุมพินีวัน จะไม่ใช่จุดเริ่มต้นถ้าใช้ทางรถยนต์มักเป็นจุดที่ ๒ หรือ ๓ โดยมีการเดินทางโดยรถยนต์หลายเส้นทางอาทิเช่น เดินทางจากเมือง
    • สาวัตถี-ลุมพินี ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ระยะเวลา 6-7 ชม เนื่องจากทางไม่ค่อยดี
    • กุสินารา-ลุมพินี ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ระยะเวลา 4-5 ชม
  • เดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศจากเมืองหลวงประเทศเนปาล(กาฐมาณฑุ)-ลุมพินี ใช้ระยะเวลาประมาณ 45  นาที

สำหรับฟาฟา ทราเวล ได้จัดแผนการเดินทางเพื่อรองรับกิจกรรมทัวร์ในหลายๆโอกาสโดยเลือกใช้เส้นทางในวันที่พักเมืองกุสินารา จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองลุมพินีวัน เนื่องจากระยะทางและความสะดวกในการจัดที่พักและง่ายต่อการเดินทาง จึงถือว่าเส้นทางนี้มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

lumbini-map


ที่พักในเมืองลุมพินี

ในส่วนของ ฟาฟา ทราเวล ทุกๆทริปการให้บริการในทุกทัวร์สำหรับเมืองลุมพินีจะใช้บริการ โรงแรมระดับ3-4ดาวมาตรฐานเนปาล ยกตัวอย่างเช่น Zambala Hotel โดยที่พักมีเครื่องอำนวยความสะดวก ทั้งน้ำอุ่นและเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งอาหารมาตรฐานโรงแรม สามมื้อ เช้า กลางวัน และ เย็น สะอาด ปลอดภัย

lub-PB083471


ภาพตัวอย่างบรรยากาศแสวงบุญ ณ ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล


วัดไทย ๙๖๐

สำหรับการเดินทางก่อนข้ามเขตแดนอินเดีย จะมีวัดไทยตั้งอยู่ชื่อว่าวัดไทย ๙๖๐ ซึ่งวัดไทยแห่งนี้จะรองรับผู้แสวงบุญ ที่จะเดินทางสู่เมืองลุมพินี หรือจากลุมพีนีสู่เมืองอื่นๆ ทั้งห้องน้ำและอาหารเครื่องดื่มคอยให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรตีทอดกรอบพร้อมนมข้นหวาน ที่เป็นสูตรเฉพาะมีที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารว่างที่อร่อยที่สุด และขึ้นชื่อที่สุด พูดง่ายๆ ถ้ามาวัดไทย ๙๖๐ แล้วไม่ได้ชิมโรตีที่นี่ เหมือนไม่ได้มาแสวงบุญ ฟาฟา ทราเวล ทุกๆทริปที่เดินทางแสวงบุญจะแวะพักผ่อนและร่วมถวายผ้าป่า ณ วัดไทย ๙๖๐ เป็นประจำ


[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

ข้อมูลแสวงบุญ พุทธคยา สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล อินเดีย เนปาล

อภิสัมพุทธสถานสถานที่ตรัสรู้

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ พุทธคยา

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตตราสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือความจริงอันประเสริฐประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สาระของพระสัทธธรรมตอนหนึ่งว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวล ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ”  เมืองพุทธคยาสถานที่สำคัญยิ่งที่พุทธศาสนิกชนต้องเดินทาง มาสักการะบูชา ณ สถานที่สำคัญต่างๆอาทิเช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ มหาเจดีย์พุทธคยา องค์หลวงพ่อพระเมตตา เป็นต้น


ก่อนที่จะกล่าวถึงข้อมูล สถานที่สำคัญต่างๆในเมืองพุทธคยา นั้นมีความสำคัญยิ่งนัก ผู้คนทั่วโลกก็ว่าได้ ถ้าถือได้ว่าเป็นพุทธศาสนิกชน ที่มีความศรัทธายิ่งในพระพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งในชีวิตจำเป็นต้องมา ยังสถานที่สำคัญแห่งนี้ ที่เรียกว่าเมืองพุทธคยา ต้องมากราบนมัสการ ณ ต้นมหาโพธิ พร้อมทั้ง สถูปมหาโพธิเจดีย์ สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นมงคลยิ่งในชีวิตหนึ่ง สถูปมหาโพธิเจดีย์สร้างเพื่อเป็นอนุสรสถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สร้างมากว่า สองพันปีภายในยังมีสิ่งที่สำคัญยิ่งคือองค์พระประธานที่แสดงแทนพระพุทธองค์ที่ทรงยิ้มนามว่า “พระพุทธเมตตา”

ความสำคัญยิ่งในพุทธคยานั้นทุกๆชนชาติต่างต้องมา ณ จุดแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ชาวไทย ชาวพม่า ศรีลังกา ฑิเบต ภูฏาน จีน มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ก็นิยมมายังสถานที่สำคัญแห่งนี้ไม่น้อยกว่าชาวไทยเอง


เส้นทางการเดินทางมายังเมืองพุทธคยา ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร ห่างจากเมืองคยาประมาณ 15 กิโลเมตร ห่างจากเมืองปัตนะ เมืองหลวงของรัฐพิหารประมาณ 105 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกัลกาต้าประมาณ 500 กิโลเมตร การเดินทางมายังพุทธคยา ชาวไทยนิยมเดินทางดังนี้

เส้นทางเดินทางสู่พุทธคยา

บินจากประเทศไทยลงสนามบินเมืองกัลกาต้า(เมืองหลวงเก่าของอินเดีย)

  • เดินทางต่อมายังเมืองพุทธคยาโดย รถยนต์ส่วนตัว(ใช้ระยะเวลาประมาณ12ชม.)
  • โดยรถไฟ (กัลกาต้า-คยา)
  • โดยเครื่องบิน (กัลกาต้า-ปัตนะ)  ระยะเวลาประมาณ 1 ชม จากนั้นนั่งรถยนต์ส่วนตัวจากเมืองปัตนะมายังพุทธคยา ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3  ชม

บินจากประเทศไทยลงสนามบินเดลี

  • เดินทางต่อมายังเมืองพุทธคยาโดยรถไฟ (เดลี-คยา)
  • เดินทางต่อโดยเครื่องบิน (เดลี-คยา) ใช้ระยะเวลาประมาณ 2  ชม.

สำหรับฟาฟา ทราเวล จัดบริการนำเที่ยวมายังสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล โดยเริ่มต้น ณ เมืองพุทธคยา โดยเลือกใช้เส้นทางการเดินทางดังนี้

[su_list icon=”icon: plane”]

  • บินระหว่างประเทศเส้นทาง BKK-CUU  จากนั้น บินภายในประเทศ CCU-PAT หรือ CCU-VNS เป็นจุดเริ่มต้นในการแสวงบุญ
  • บินระหว่างประเทศเส้นทาง BKK-DEL จากนั้นบินภายในประเทศ DEL-GAY

[/su_list]

[su_list icon=”icon: automobile”]

  • เดินทางโดยรถยนต์จากกัลกาต้า-พุทธคยา และขากลับจากพุทธคยา-กัลกาต้า ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-12 ชม.

[/su_list]

รถที่ใช้เดินทาง


ที่พัก ณ เมืองพุทธคยา

ฟาฟา ทราเวลจัดการดูแลทัวร์ในแต่ละครั้งที่ร่วมแสวงบุญ เลือกใช้บริการทั้งโรงแรมที่พักในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น โรงแรม Ohm Int Hotel และจัดการอาหารให้ทุกท่านที่ร่วมแสวงบุญโดยใช้บริการอาหารจากทางโรงแรมทั้งสามมื้อ ที่มีการปรุงที่สะอาด ปลอดภัย โดยอาหารนั้นมีทั้งไก่ ปลา และอาหารมังสวิรัต โดยมีเมนูเสริมเป็นอาหารไทย และการปรุงอาหารของครัวที่โรงแรมก็สามารถปรับประยุกต์อาหารไทยได้ค่อนข้างดี อาทิเช่น ต้มยำไก่ ผัดกระหล่ำดอก ไข่เจียว ซึ่งวัตถุดิบที่สดใหม่ และสะอาด คอยให้บริการแก่ทุกท่าน และมาตรฐานโรงแรมระดับ 3-4ดาวของเมืองพุทธคยา ซึ่งการพักผ่อนจะพักห้องละ ๒ ท่าน โดยถ้าท่านที่ต้องการพักเดี่ยวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้

ภาพที่พัก อาหาร โรงแรมที่พัก เส้นทางแสวงบุญสังเวชนียสถาน
ภาพที่พัก อาหาร โรงแรมที่พัก เส้นทางแสวงบุญสังเวชนียสถาน ณ โรงแรม Ohm Int’

สำหรับที่พักในบางทริปก็จะจัดที่พักโดยได้รับความเมตตาจากวัดไทยในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น วัดไทยสาวิกา ซึ่งให้การต้อนรับที่อบอุ่น เป็นกันเอง พร้อมอาหารไทยจากคณะแม่ครัว แม่ชี ชาวไทย ห้องพักจะเป็นห้องนำ้ในตัวพักแยกหญิงชาย ห้องละ 4-5 ท่าน โดยค่าใช้จ่ายในการพักจะเป็นการร่วมทำบุญกับวัดไทย ตามกำลังศรัทธา ซึ่งในบางทริป ฟาฟา ทราเวล ก็นำทุกท่านพักยังวัดไทยดังที่กล่าวมา


พุทธคยา สถานที่แห่งการตรัสรู้ BODH GAYA,THE PLACE OF ENLIGHTENMENT

เมื่อทุกท่านเดินทางมาถึงเมืองพุทธคยา ฟาฟา ทราเวล จะนำพาทุกท่านร่วมกันแสวงบุญยังสถานที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันเรียกบริเวณนี้ว่า พุทธคยา ทุกท่านจะได้ร่วมกันสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และเจริญจิตภาวนา ภายในบริเวณรอบสถูปมหาโพธิ์ โดยสถานที่สำคัญที่จะร่วมจาริกแสวงบุญมีดังต่อไปนี้

[su_list icon=”icon: play-circle-o” icon_color=”#1762a8″]

  • ทำวัตรสวดมนต์ เจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
  • กราบนมัสการพระพุทธเมตตา ที่ตั้งเป็นองค์ประธาน ณ มหาโพธิเจดีย์ พร้อมทั้งร่วมกันถวายผ้าห่มองค์พระพุทธเมตตา
  • ประทักษิณา เป็นพุทธบูชารอบมหาโพธิเจดีย์
  • กราบนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆและปิดทองคำเปลวเป็นพุทธบูชา รอบๆพุทธคยา อาทิเช่น
    • บริเวณแท่นวัชรอาสน์ หรือที่เรียกว่าแท่นรัตนบัลลัง
    • กราบนมัสการสถานที่ พระองค์เสวยวิมุติสุข สัตตมหาสถาน-โพธิบัลลังก์-อนิมิสเจดีย์-รัตนจงกรมเจดีย์-รัตนฆรเจดีย์-ต้นอชปาลนิโครธ-ต้นมุจลินท์-ต้นราชายตนะ
  • แม่น้ำเนรัญชรา สถานที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานเสี่ยงทายลอยถาด ณ จุดนี้ จะร่วมกันทำพิธีอธิษฐานจิตเป็นพุทธบูชา ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้
  • บ้านนางสุชาดา
  • ดงคสิริเขาบำเพ็ญเพียร
  • วัดไทยพุทธคยา วัดนานาชาติ

[/su_list]


ภาพตัวอย่างบรรยากาศแสวงบุญ ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย

เชิญชมภาพบรรยากาศการแสวงบุญ จากทริปที่ผ่านมาที่ทาง ฟาฟา ทราเวลได้มอบบริการดีๆ


[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

เส้นทางจาริกแสวงบุญสังเวชนียสถาน

ฟาฟา ทราเวลอัพเดทเรื่องราว เส้นทางจาริกแสวงบุญ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เส้นทางจาริกแสวงบุญ

Loading