A03-2024-A002-4HOLY-ทัวร์สังเวชนียสถาน 4ตำบล บินตรงลงคยา พักโรงแรมตลอดการเดินทาง เดินทาง ไปครบทุกจุด ปี 2567 8-15 ก.พ.67

ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย-เนปาล ด้วยเที่ยวบินพิเศษ บินตรงลงคยา พร้อมบริการอาหาร และ ที่พักโรงแรมตลอดการเดินทาง ในราคาพิเศษ มีจำนวนจำกัด ปี 2567 พร้อมให้บริการในราคาโปรโมชั่น น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง 30 กิโลกรัม

ทัวร์สังเวชนียสถาน อินเดีย เนปาล 8 วัน7คืน พักโรงแรม บินตรงการบินไทย ไปสาวัตถี

https://bit.ly/45yipZT

สถานที่ ประสูติ แสดงปฐมเทศนา และสถานที่พระพุทธองค์ดับขันธปรินิพพาน
พร้อมเยือน
รามคาม เทวทหะ ร่วมทำวัตร ปฏิบัติบูชา เสริมมงคลให้กับชีวิต ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

 เวียนเทียน แห่ผ้าห่มหลวงพ่อพระพุทธเมตตา ถวายผ้าอาบน้ำฝน ทอดผ้าป่า ปฏิบัติบูชามากมาย

โดยทีมงาน มัคคุเทศก์ที่ชำนาญงานที่พักระดับมาตรฐาน มาตรฐาน ฟาฟา ทราเวล

บินตรงลงคยา

พักโรงแรมตลอดการเดินทาง พร้อมอาหารถูกหลักอนามัย และ เสริมอาหารไทย

พาทุกท่านสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม พร้อมนิมนต์พระธรรมฑูตสายอินเดียเนปาล นำพาแสวงบุญ ในเส้น ทาง สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล

พร้อมเครื่องสักการะ ร่วมถวายผ้าห่มพระปางปรินิพพาน ผ้าไตรจีวรถวาย พระพุทธเมตตา

คุ้มค่ากับพุทธคยา ร่วมเจริญสติและสวดมนต์ ณ มณฑลเจดีย์พุทธคยาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

หัวหน้าทัวร์ไทย และมัคคุเทศก์ชาวอินเดีย ประสบการณ์และนำเที่ยว ให้ทุกท่านมั่นใจ ในการให้ บริการ ด้วยบริษัทฯนำเที่ยวจากอินเดีย ที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้องตามกฎหมาย

เส้นทางสะดวก จัดหาจุดพักรถ เข้าห้องน้ำตลอดการเดินทาง

★ พร้อมชิมอาหารอินเดียสุดอร่อย แกงกระหรี่ไก่ ข้าวหมก และแกงกระหรี่แพะ สูตรอินเดียแท้

นัดหมายเวลา 09.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร 1  ชั้น 4 เชิญที่ประตู 1-3 สายการบิน Thai Smile Flight WE 327 เพื่อตรวจเอกสารการเดินทางและสัมภาระ เจ้าหน้าที่ฟาฟา ทราเวล  รอทุกท่านเพื่อเตรียมสัมภาระ โหลดขึ้นเครื่อง น้ำหนักสัมภาระ ตามเงื่อนไขข้อกำหนดของสายการบิน น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. ถือขึ้นเครื่องได้ 7 ก.ก.

12.20 น. ออกเดินทางสู่ประเทศอินเดีย ด้วยสายการบิน Thai Smiles ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30นาที เวลาของอินเดียช้ากว่าไทย ประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที ถึงสนามบินคยา ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 14.00 น.)

14.00 น.  พาทุกท่านทำเรื่องผ่านด่านคยา (Gaya Immigration) ประเทศอินเดีย รับกระเป๋า พร้อมออกเดินทางเข้าเมืองพุทธคยา โดยรถบัสปรับอากาศ และต้อนรับพระธรรมฑูตสายอินเดีย เนปาล รอทุกท่านที่พุทธคยา

เดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Maya Heritage / Similar

พาทุกท่านเข้ากราบสักการะ มหาโพธิเจดีย์ เมืองพุทธคยา อิสระใน การทำบุญและเจริญจิตภาวนา พุทธสังเวชนียสถาน แห่งที่สำคัญ สถานที่ตรัสรู้ จุดนี้เป็นจุดที่พุทธศาสนิกชนต้องการที่จะมาเยือนสัก ครั้งหนึ่งในชีวิต

“ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้แห่งการตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณและเป็น ๑ ใน ๗ สหชาติ ขององค์สมเด็จบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังคงตั้งตระหง่านในใจเราเสมอๆ คราวใดที่ได้น้อมรำลึกนึกถึงคราวได้ไปกราบ ได้ไปใกล้ๆ ดุจได้กราบแทบบาทองค์พระศาสดา ๑ สถานที่ความศักดิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของเหล่าพุทธบริษัททั่วสารทิศ

เย็น  รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองพุทธคยา : Hotel Maya Heritage หรือเทียบเท่า

วันที่ 2
คยา ๏ ราชคฤห์๏ นาลันทา๏ ไวสาลี

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

ออกเดินทางมุงหน้าสู่เมืองราชคฤห์ เยี่ยมชม พระมูลคันธกุฎีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ เขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ประเทศอินเดียซึ่งเขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ประทับจำพรรษาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพรรษาที่ ๒ ,๕ ,๗ และพรรษาสุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานคู และประกอบด้วยคูหาอันเป็นกุฏิของอัครสาวกทั้ง ถ้ำสุกรขาตา ของพระสารีบุตร และถ้ำของพระโมคคัลลานะ เมื่อขึ้นไปด้านบน บรรยากาศจะสงัดร่มเย็นและสัปปายะมาก แม้จะมีผู้คนขึ้นลงในแต่ละวันเพื่อมานมัสการกันเป็นจำนวนมาก แต่ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านทิวเขา  ทิวเขารอบๆ ใหญ่โต ห่างไกลเสียงอึกทึกครึกโครมของตัวเมือง คิชฌกูฏเป็นสถานที่เงียบสงัดเหมาะสำหรับจิตพึงให้อยู่ในความสงบ ทั้งอากาศและบรรยากาศเป็นที่โน้มน้าวจิตใจให้ใสสะอาดได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงมักเสด็จมาประทับที่นี่เสมอ แวะทำบุญทอดผ้าป่า ณ วัดไทยลัฏธิวัน เมืองราชคฤห์

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองราชคฤห์/นาลันทา

บ่าย  สักการะหลวงพ่อพระองค์ดำ พระพุทธธูปอันศักดิ์สิทธิ์เมืองนาลัน ที่ชาวพุทธนักท่องเทียวผู้มีศรัทธาต่างมาสักการะ “หลวงพ่อองค์ดำ” เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือจากการทำลายในครั้งสงครามศาสนาที่เข้ามายึดทำลายอินเดีย เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้นที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของมุสลิม และไม่ถูกอังกฤษยึดไป ชาวบ้านได้มาดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดการเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้หลวงพ่อรักษาโรคต่างๆ นับเป็นมหัศจรรย์ว่าโรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วย “พลังความศักดิ์สิทธิ์” ของพระองค์ท่าน แม้แต่ปัจจุบันชาวพุทธผู้แสวงบุญชาวไทยต่างได้เดินทางไปสักการะและอธิษฐานขอพรจากท่านรักษาโรคต่างๆ หายได้อย่างน่าประหลาดใจ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งนัก หลังจากนั้นแวะเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยนาลันทา(เก่า) ออกเดินทางสู่เมือง ไวศาลี

เย็น รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองไวศาลี : Hotel Vaishali Int’l. / Similar หรือเทียบเท่า

วันที่ 3
ไวสาลี ๏ มหาเจดีย์เกสริยา ๏ กุสินารา

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

พาทุกท่านเยี่ยมชมแสวงบุญในจุดสำคัญเมืองไวศาลี คือ ปาวาลเจดีย์ พระสถูปเก่าแก่และเป็นพุทธสถานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำการปลงพระชนมายุสังขาร

จากนั้นเยี่ยมชมวัดป่ามหาวัน สถานที่แห่งนี้ยังมีเสาหิน พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นเสาที่มีความสมบูรณ์ บนหัวเสามีรูปสิงโต นำทุกท่านปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ฟังธรรมตามสมควร เมื่อถึงเวลา พาทุกท่านเดินทางเมืองลุมพินี

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ระหว่างทางพาทุกท่านสักการะ มหาเจดีย์เกสริยา เป็นจุดที่จัดเก็บที่ประดิษฐานบาตรของพระโคตมพุทธเจ้าที่ทรง ประทานแก่ชาววัชชี ปัจจุบันได้ขุดและนำออกจากสถูปเรียบร้อยแล้วโดย มหาเจดีย์เกสริยา เป็นสถูปเดียวกับที่ปรากฏในบันทึกของพระ ถังซำจั๋ง ที่เคยจาริกแสวงบุญมายังสถานที่แห่งนี้ ท่านได้กล่าวไว้ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพระมหาสถูปที่ประดิษฐานบาตรของ พระพุทธองค์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานแก่ชาววัชชีเมืองไวสาลีที่ตาม มาส่งเสด็จพระพุทธองค์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเสด็จไปยังเมืองกุสินารา

ออกเดินทางถึง เมืองกุสินารา เมืองพุทธสถาน หนึ่งใน ๔ สังเวชนียสถาน สถานที่ พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน

กราบ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระขององค์บรมศาสดา คณะร่วมกันปฏิบัติบูชา สวดมนต์ เวียนเทียนโดยรอบ และนั่งเจริญจิต ภาวนา

นำทุกท่านร่วมกันทำบุญ ซื้อของฝาก และเยี่ยมชม วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ น้อมถวายผ้าป่า

วันที่ 4 กุสินารา – ลุมพินี

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำคณะเดินทางสู่ สวนสาลวโนทยาน กราบสักการะ มหาปรินิพพานสถูป เจดีย์ทรงบาตรคว่ำภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน สร้างด้วยหินทรายแดงอายุกว่า ๑,๙๐๐ ปี ที่งดงาม ร่วมกันปฏิบัติธรรม ฟังธรรม และสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้ มีพิธีห่มผ้าสีดุจทองเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาและน้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การที่พระพุทธองค์ทรงเลือกเมืองกุสินาราอันเป็นเมืองเล็กแห่งนี้เป็นสถานที่ปรินิพพาน มีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญ คือทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์จักถูกแว่นแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็ก ๆ เช่น เมืองกุสินารา เป็นต้น ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางต่อสู่เมืองลุมพินี ประเทศเนปาล

ออกเดินทางต่อไปยังลุมพินี ประเทศเนปาล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง พาทุกท่านทำเรื่องผ่านแดน ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง โสโนลี (Sonauli India Immigration)ก่อนถึงด่าน นำท่านแวะเข้าห้องน้ำพักผ่อน ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม ๙๖๐ ท่านสามารถรับประทานโรตีอารีดอย ราดนมข้นอันเลื่องชื่อได้

หลังจากทำเรื่องข้ามด่านพรมแดนเรียบร้อย พาทุกท่านสู่ สังเวชนียสถานแห่งแรก สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล นำพาทุกท่าน เจริญจิตภาวนา สวดมนต์ ถวายเป็นพุทธบูชา และ ชมโบราณสถาน มายาเทวีวิหาร (Maya Devi Temple) พร้อมรอยพระบาท ๗ ก้าวของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สถานที่แห่งนี้เย็น  ข้ามด่านไปประเทศเนปาล รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรมเมืองลุมพินี : Hotel Mourya หรือเทียบเท่า

วันที่ 5 ลุมพินี-สาวัตถี

สังเวชนียสถานแห่งแรก สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล นำพาทุกท่าน เจริญจิตภาวนา สวดมนต์ ถวายเป็นพุทธบูชา และ ชมโบราณสถาน มายาเทวีวิหาร (Maya Devi Temple) พร้อมรอยพระบาท ๗ ก้าวของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ สถานที่แห่งนี้  เป็นอุทยานที่น่ารื่นรมย์ อยู่กึ่งกลางรหว่างเมืองเทวทหะ กับกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันเรียกว่า รุมมินเด อำเภอไพราว่า ประเทศเนปาล ห่างจากพรมแดนอินเดียราว 23 กิโลเมคร สิ่งที่ค้นพบ คือ ซากวัดเก่าแก่ สระน้ำที่พระนางสิริมหามายาทรงสนาน, รูปปั้นหินอ่อนตอนพระนางประสูติพระราชโอรส และเสาหินที่พระเจ้าอโศกมหาราชจารึกไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า.

ออกเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศอินเดียอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปยัง เมืองสาวัตถี ด่านตรวจคนเข้าเมือง โสโนลี (Sonauli India Immigration) อีกครั้ง ก่อนถึงด่าน นำท่านแวะเข้าห้องน้ำพักผ่อน ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม ๙๖๐ และให้ทุกท่านสามารถทำบุญ ทอดผ้าป่าได้ รับประทานอาหารตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่ออีกครั้ง ระหว่างทาง แวะวัดสิทธารถราชมณเฑียร รัฐอุตตรัฐประเทศ จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองสาวัตถี

วันที่ 6 สาวัตถี-พาราณสี

เมืองสาวัตถี เมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล ที่มี“พระเจ้าปเสนทิโกศล” เป็นผู้ปกครองแคว้นโกศล พระองค์เป็นผู้ที่ให้ความเคารพนับถือพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก

-เมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับจำพรรษาอยู่ยาวนานที่สุดถึง 25 พรรษา(พระพุทธองค์เผยแผ่ประกาศพระพุทธศาสนาอยู่ 45 พรรษา)  “องคุลิมาล” มหาโจรที่สุดท้ายกลับตัวกลับใจจนได้เป็นพระอรหันต์  เมืองที่พระเทวทัต นางจิญจมาณวิกา และนันทมานพถูกธรณีสูบ “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” ได้สร้าง “วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร”

เมื่อถึงเมืองสาวัตถี นำทุกท่านเข้า “วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร”มีความสำคัญที่สุด เนื่องจากพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับจำพรรษาอยู่ถึง 19 พรรษา เข้ากราบ อานันทโพธ์ ต้นโพธิ์อายุกว่า 2,500 ปี ตั้งแต่สมัยพุทธกาล และจุดสำคัญจุดอื่นๆโดยรอบ วัดพระเชตวันวรมหาวิหาร และสถานที่สำคัญภายในบริเวณดังกล่าวอาทิเช่น “เจดีย์อรหันต์ 8 ทิศ” “ธรรมราธิการ” หรือสถานที่ตัดสินคดีความเปรียบได้ดังศาล และ กลุ่ม “กลุ่มกุฏิสำคัญ”

เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง ออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี

ถึงโรงแรมที่พัก

วันที่7 พาราณสี-ล่องแม่น้ำคงคา-ธัมเมกขสถูป-พุทธคยา

เช้า  ชมวิถียามเช้า ของชาวเมืองพาราณสี ริมฝั่งแม่น้ำคงคา พร้อมล่อง เรือดูพิธีสุริยนมัสการ ในยามเช้า พร้อมลอยกระทงดอกไม้ ทางทัวร์จัด เตรียมมาให้เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุกลางแม่น้ำคงคา ผู้คนมา อาบน้ำยามเช้า ณ แม่น้ำคงคา ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในหนึ่งวันจะอาบน้ำ เพียงหนเดียวคือในยามเช้า โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยแถบริมแม่น้ำคงคา เนื่องด้วย

๑. เชื่อว่าเป็นน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ การชำระร่างกายอันเป็นกิจประจำ ยังถือเป็นน้ำที่ ล้างบาปไปด้วย

 ๒. การอาบในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการขอ พรและบูชาพระสุริยเทพต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

ท่าน้ำทั้ง ๕ คือ ท่าอัสสี ท่าทศอัศวเมธ ท่าปัญจคงคา ท่ามณิกรรณิกา และท่าอธิเกศวรระทาน

เช้า กลับมารับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก หลังจากรับประทานอาหารเช้า พาทุกท่านเดินทางสู่  สารนาถ หรือ ป่าอิสิปปตนมฤคทายวัน  หนึ่งในสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก และเป็นสถานที่ที่มีพระรัตนตรัย ครบ องค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งปฐมธรรมบทแรกคือ บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ในวันเพ็ญอาสาฬหมาส เป็นครั้งแรก ร่วมกัน ปฏิบัติธรรม สวดมนต์บท ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ณ สถานที่แห่งนี้ ปัจจุบันมีสถูปขนาดใหญ่ เป็นที่รู้จักกันในในนาม ธัมเมกขสถูป (Dhamek Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สังเวชนียสถานแห่งที่ 3

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นออกเดินทาง สู่ เมืองพุทธคยา น้อมถวายผ้าป่าวัดไทยสะสามราม(วัดระหว่างทางไปพุทธคยา)

เป็นวัดไทยที่ท่านสามารถแวะพักรับประทานน้ำดื่มและแวะพักห้องน้ำได้ และสามารถซื้อของฝากเพื่อร่วมบุญกับทางวัดได้อีกด้วย เย็น   เดินทางถึงเมืองพุทธคยา รับประทานอาหารเย็นและพักผ่อนตาม อัธยาศัย  พักโรงแรมเมืองพุทธคยา : Hotel Maya Heritage หรือเทียบเท่า

วันที่ 8
พุทธคยา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดนานาชาติ ดงคสิริ บ้านนางสุชาดา เต็มวัน

เช้า  นำทุกท่านเข้ากราบนมัสการ พุทธสังเวชนียสถาน แห่งที่สำคัญ สถานที่ตรัสรู้ มหาโพธิเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ จุดนี้เป็นจุดที่พุทธศาสนิกชนต้องการที่จะมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต โปรแกรมทัวร์ เน้นที่พุทธคยา เป็นหลัก ท่านสามารถเต็มอิ่มพุทธคยา ตลอดวัน อย่างคุ้มค่า ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านสามารถทำกิจกรรมอันมงคลได้อย่างเต็มที่ อาทิ

  • ร่วมกันถวายผ้าห่มสักการะ องค์พระพุทธเมตตา
  • ร่วมกัน สวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
  • ปฏิบัติธรรม ตามอัธยาศัยบริเวณโดยรอบ มหาโพธิเจดีย์ 
  • เยี่ยมชม ๗ สัตตมหาสถาน
  • ปฏิบัติธรรมตลอดช่วงเช้า

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน

12.00 น. เช็คเอาท์เตรียมสัมภาระ ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติคยา เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

13.00 . เช็คอิน ณ สนามบินนานาชาติคยา Flight WE 328 สายการบิน Thai Smile  น้ำหนักสัมภาระ 20 ก.ก.

15.00 น. ออกเดินทางกลับสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

19.40 น. เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

Loading

ข้อมูลแสวงบุญ สารนาถ พาราณสี สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล อินเดีย เนปาล

ธัมมจักกัปปวัตตสถาน สถานที่แสดงธรรม

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ สารนาถ

สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาที่ป่าอิสปตนมฤคทายวันแขวงพาราณสี ปัจจุบันเรียกว่าเมืองสารนาถ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตรพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ว่าเป็นทางสายกลางทำให้เกิดดวงตาเห็นธรรม ทำให้เกิดปัญญา เป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อการตรัสรู้(คือรู้แจ่มแจ้ง) และเพื่อพระนิพพาน (สภาพที่ดับกิเลสและทุกข์ทั้งปวง) เหตุการณ์ที่สำคัญคือ วันพระธรรมจักรคือ วันที่ล้อแห่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมุนไปเป็นครั้งแรก วันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในวันอาสฬหบูชา กิจกรรมสำคัญยิ่งที่ผู้ร่วมแสวงบุญเมื่อได้เดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้คือ การร่วมสวดมนต์ธัมจักรกัปปวัตนสูตร ณ ธัมเมกขสถูปเมืองสารนาถ พร้อมทั้งชมพระพุทธรูปปางแสดงพระธรรมเทศนา ณ พิพิธภัณฑสถานเมืองสารนาถ พร้อมทั้งร่วมเดินทางสู่แม่น้ำคง เพื่อล่องเรือชมวิธีชีวิตของชาวเมืองพาราณสี ในแบบฉบับที่ท่านจะไม่เคยพบมาก่อน


ธัมเมกขสถูป สารนาถ (มฤคทายวัน)

map-varanasiสังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ เมืองสารนาถ ตั้งอยู่เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ห่างจากตัวเมืองพาราณสีประมาณ ๑๕ กิโลเมตร สารนาถเป็นสถานที่สำคัญในประวัติพระพุทธศาสนาเป็นสถานที่ ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา ธรรมจักรกัปวัตนสูตร เพื่อโปรดเหล่าปัจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งปัจจุบันเรียกบริเวณนี้ว่าเมืองสารนาถ ภายในเมืองสารนาถประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาดังต่อไปนี้

ภาพเมืองสารนาถ ภาพจากเว็บ http://www.pbcindia.org/gallery/welcome-orgyen-samye-chokhor-ling
ภาพเมืองสารนาถ ภาพจากเว็บ http://www.pbcindia.org/gallery/welcome-orgyen-samye-chokhor-ling

ธัมเมกขสถูป

สถูปที่แสดงให้เห็นว่า สถานที่ตำแหน่งนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาธรรม ณ จุดแห่งนี้ สถูปแห่งนี้เป็นอนุสรเตือนสติเพื่อให้ระลึกถึงกุศลธรรม ผู้เห็นธรรมคือ พระอัญญาโกณทัญญะ สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.269-311) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด และอาจมีการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อเติมขึ้นมาในสมัยราชวงศ์คุปตะ (ราว พ.ศ.900-1100) เพราะแผ่นอิฐด้านในพระสถูปนั้น มี อายุเก่าแก่กว่าแผ่นอิฐด้านนอก และลวดลายที่ปรากฏบนองค์พระสถูปด้านนอกนั้นเป็นลวดลายใบไม้ ดอกไม้ นก และรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมมากในสมัยคุปตะ

นอกจากนี้แล้วบริเวณยังมีส่วนที่สำคัญดังต่อไปนี้

  • เสาอโศก หรือ เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช
  • พระมูลคันธกุฏี หรือ “พระมูลคันธกุฏีวิหาร” ภายในอาณาบริเวณสารนาถในปัจจุบัน
  • พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ในพิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี  ซึ่งถูกขุดพบ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
    ที่มีผู้ยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งามที่สุดในโลก สร้างขึ้นในยุคสมัยคุปตะ (Gupta Period) เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๘๐๐-๑๒๐๐
  • เสาหัวสิงห์ ๔ ทิศ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี

สำหรับการจาริกแสวงบุญ ทางคณะแสวงบุญจะนำพาทุกท่านร่วมกิจกรรมบุญมากมาย อาทิเช่น

  • ร่วมปทักษิณา เวียนเทียนรอบธัมเมกขสถูปเป็นพุทธบูชา
  • ร่วมสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา พร้อมร่วมกันสวดมนต์บทธรรมจักรกัปวัตนสูตร เป็นพุทธบูชา ณ บริเวณสังเวชนียสถานที่สำคัญ จุดนี้
  • ปิดทองคำเปลวเป็นพุทธบูชา ณ พระมูลคันธกุฏิ เมืองสารนาถ
  • ชมปฏิมากรรมที่สำคัญยิ่ง ณ พิพิธภัณฑ์สารนาถ เมืองพาราณสี

SARNATH

SARNATH:It is said that Lord Buddha delivered his first sermon after attaining enlightenment here in Sarnath.The buildings and monuments of Sarnath were built by the emperor Ashoka.

VISIT:Chowkhandi Stupa,Dhamekha Stupa,Ashok Pillar,Deer Park.


ภาพประทับใจและกิจกรรมต่างๆ ณ เมืองสารนาถ

พาราณสี ล่องเรือ ณ แม่น้ำคงคา

เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดู ต้องมาสักการะยังแม่น้ำคงคา เส้นทางสายน้ำที่ชาวเมืองพาราณสีและชาวอินเดียต้องมาทำพิธีอาบน้ำในช่วงเช้าของทุกวัน ทุกท่านจะได้พบกับวิธีชีวิตของชาวเมืองพาราณสีริมฝั่งแม่น้ำคงคาในยามเช้า พร้อมล่องเรือ ชมสถานที่สำคัญต่างๆรอบแม่น้ำคงคา อาทิเช่น ณ จุดที่เผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคา จะมีศพถูกนำมาเผาวันละประมาณ ๘๐-๑๐๐ ศพ ซึ่งท่าน้ำในเมืองพาราณสีมี ท่าน้ำทั้ง ๕ คือ ท่าอัสสี ท่าทศอัศวเมธ ท่าปัญจคงคา ท่ามณิกรรณิกา และท่าอธิเกศวร ที่สำคัญที่ชาวฮินดูต่างมาสักการะ

ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในหนึ่งวันจะอาบน้ำเพียงหนเดียวคือในยามเช้า โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่แถบริมแม่น้ำคงคา เนื่องด้วย ๑. เป็นการชำระร่างกายอันเป็นกิจประจำ ยังถือเป็นน้ำที่ล้างบาปไปด้วยในตัว ๒. การอาบในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการขอพรและบูชาพระสุริยเทพต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

PB114696ฝั่งของแม่น้ำคงคามี ๒ ฝั่ง คือ ฝั่งสวรรค์ และอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามคือ ฝั่งนรก

ณ สถานที่แห่งนี้ทุกท่านๆจะได้ร่วมปลงสังเวช ร่างกายนี้เมื่อหมดลมหายใจไม่สามารถนำอะไรติดตัวไปได้เลย เหลือเพียงเถ้าถ่าน ดังคำของพระพุทธองค์ที่ว่า

มะระณะธัมโมม๎หิ เรามีความตายเป็นธรรมดา

มะระณังอะนะตีโต  เราจะล่วงความตายไปไม่ได้

vns-PB114699



[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

ข้อมูลแสวงบุญ พุทธคยา สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล อินเดีย เนปาล

อภิสัมพุทธสถานสถานที่ตรัสรู้

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ พุทธคยา

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตตราสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือความจริงอันประเสริฐประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สาระของพระสัทธธรรมตอนหนึ่งว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวล ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ”  เมืองพุทธคยาสถานที่สำคัญยิ่งที่พุทธศาสนิกชนต้องเดินทาง มาสักการะบูชา ณ สถานที่สำคัญต่างๆอาทิเช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ มหาเจดีย์พุทธคยา องค์หลวงพ่อพระเมตตา เป็นต้น


ก่อนที่จะกล่าวถึงข้อมูล สถานที่สำคัญต่างๆในเมืองพุทธคยา นั้นมีความสำคัญยิ่งนัก ผู้คนทั่วโลกก็ว่าได้ ถ้าถือได้ว่าเป็นพุทธศาสนิกชน ที่มีความศรัทธายิ่งในพระพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งในชีวิตจำเป็นต้องมา ยังสถานที่สำคัญแห่งนี้ ที่เรียกว่าเมืองพุทธคยา ต้องมากราบนมัสการ ณ ต้นมหาโพธิ พร้อมทั้ง สถูปมหาโพธิเจดีย์ สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นมงคลยิ่งในชีวิตหนึ่ง สถูปมหาโพธิเจดีย์สร้างเพื่อเป็นอนุสรสถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สร้างมากว่า สองพันปีภายในยังมีสิ่งที่สำคัญยิ่งคือองค์พระประธานที่แสดงแทนพระพุทธองค์ที่ทรงยิ้มนามว่า “พระพุทธเมตตา”

ความสำคัญยิ่งในพุทธคยานั้นทุกๆชนชาติต่างต้องมา ณ จุดแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ชาวไทย ชาวพม่า ศรีลังกา ฑิเบต ภูฏาน จีน มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ก็นิยมมายังสถานที่สำคัญแห่งนี้ไม่น้อยกว่าชาวไทยเอง


เส้นทางการเดินทางมายังเมืองพุทธคยา ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร ห่างจากเมืองคยาประมาณ 15 กิโลเมตร ห่างจากเมืองปัตนะ เมืองหลวงของรัฐพิหารประมาณ 105 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกัลกาต้าประมาณ 500 กิโลเมตร การเดินทางมายังพุทธคยา ชาวไทยนิยมเดินทางดังนี้

เส้นทางเดินทางสู่พุทธคยา

บินจากประเทศไทยลงสนามบินเมืองกัลกาต้า(เมืองหลวงเก่าของอินเดีย)

  • เดินทางต่อมายังเมืองพุทธคยาโดย รถยนต์ส่วนตัว(ใช้ระยะเวลาประมาณ12ชม.)
  • โดยรถไฟ (กัลกาต้า-คยา)
  • โดยเครื่องบิน (กัลกาต้า-ปัตนะ)  ระยะเวลาประมาณ 1 ชม จากนั้นนั่งรถยนต์ส่วนตัวจากเมืองปัตนะมายังพุทธคยา ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3  ชม

บินจากประเทศไทยลงสนามบินเดลี

  • เดินทางต่อมายังเมืองพุทธคยาโดยรถไฟ (เดลี-คยา)
  • เดินทางต่อโดยเครื่องบิน (เดลี-คยา) ใช้ระยะเวลาประมาณ 2  ชม.

สำหรับฟาฟา ทราเวล จัดบริการนำเที่ยวมายังสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล โดยเริ่มต้น ณ เมืองพุทธคยา โดยเลือกใช้เส้นทางการเดินทางดังนี้

[su_list icon=”icon: plane”]

  • บินระหว่างประเทศเส้นทาง BKK-CUU  จากนั้น บินภายในประเทศ CCU-PAT หรือ CCU-VNS เป็นจุดเริ่มต้นในการแสวงบุญ
  • บินระหว่างประเทศเส้นทาง BKK-DEL จากนั้นบินภายในประเทศ DEL-GAY

[/su_list]

[su_list icon=”icon: automobile”]

  • เดินทางโดยรถยนต์จากกัลกาต้า-พุทธคยา และขากลับจากพุทธคยา-กัลกาต้า ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-12 ชม.

[/su_list]

รถที่ใช้เดินทาง


ที่พัก ณ เมืองพุทธคยา

ฟาฟา ทราเวลจัดการดูแลทัวร์ในแต่ละครั้งที่ร่วมแสวงบุญ เลือกใช้บริการทั้งโรงแรมที่พักในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น โรงแรม Ohm Int Hotel และจัดการอาหารให้ทุกท่านที่ร่วมแสวงบุญโดยใช้บริการอาหารจากทางโรงแรมทั้งสามมื้อ ที่มีการปรุงที่สะอาด ปลอดภัย โดยอาหารนั้นมีทั้งไก่ ปลา และอาหารมังสวิรัต โดยมีเมนูเสริมเป็นอาหารไทย และการปรุงอาหารของครัวที่โรงแรมก็สามารถปรับประยุกต์อาหารไทยได้ค่อนข้างดี อาทิเช่น ต้มยำไก่ ผัดกระหล่ำดอก ไข่เจียว ซึ่งวัตถุดิบที่สดใหม่ และสะอาด คอยให้บริการแก่ทุกท่าน และมาตรฐานโรงแรมระดับ 3-4ดาวของเมืองพุทธคยา ซึ่งการพักผ่อนจะพักห้องละ ๒ ท่าน โดยถ้าท่านที่ต้องการพักเดี่ยวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้

ภาพที่พัก อาหาร โรงแรมที่พัก เส้นทางแสวงบุญสังเวชนียสถาน
ภาพที่พัก อาหาร โรงแรมที่พัก เส้นทางแสวงบุญสังเวชนียสถาน ณ โรงแรม Ohm Int’

สำหรับที่พักในบางทริปก็จะจัดที่พักโดยได้รับความเมตตาจากวัดไทยในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น วัดไทยสาวิกา ซึ่งให้การต้อนรับที่อบอุ่น เป็นกันเอง พร้อมอาหารไทยจากคณะแม่ครัว แม่ชี ชาวไทย ห้องพักจะเป็นห้องนำ้ในตัวพักแยกหญิงชาย ห้องละ 4-5 ท่าน โดยค่าใช้จ่ายในการพักจะเป็นการร่วมทำบุญกับวัดไทย ตามกำลังศรัทธา ซึ่งในบางทริป ฟาฟา ทราเวล ก็นำทุกท่านพักยังวัดไทยดังที่กล่าวมา


พุทธคยา สถานที่แห่งการตรัสรู้ BODH GAYA,THE PLACE OF ENLIGHTENMENT

เมื่อทุกท่านเดินทางมาถึงเมืองพุทธคยา ฟาฟา ทราเวล จะนำพาทุกท่านร่วมกันแสวงบุญยังสถานที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันเรียกบริเวณนี้ว่า พุทธคยา ทุกท่านจะได้ร่วมกันสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และเจริญจิตภาวนา ภายในบริเวณรอบสถูปมหาโพธิ์ โดยสถานที่สำคัญที่จะร่วมจาริกแสวงบุญมีดังต่อไปนี้

[su_list icon=”icon: play-circle-o” icon_color=”#1762a8″]

  • ทำวัตรสวดมนต์ เจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
  • กราบนมัสการพระพุทธเมตตา ที่ตั้งเป็นองค์ประธาน ณ มหาโพธิเจดีย์ พร้อมทั้งร่วมกันถวายผ้าห่มองค์พระพุทธเมตตา
  • ประทักษิณา เป็นพุทธบูชารอบมหาโพธิเจดีย์
  • กราบนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆและปิดทองคำเปลวเป็นพุทธบูชา รอบๆพุทธคยา อาทิเช่น
    • บริเวณแท่นวัชรอาสน์ หรือที่เรียกว่าแท่นรัตนบัลลัง
    • กราบนมัสการสถานที่ พระองค์เสวยวิมุติสุข สัตตมหาสถาน-โพธิบัลลังก์-อนิมิสเจดีย์-รัตนจงกรมเจดีย์-รัตนฆรเจดีย์-ต้นอชปาลนิโครธ-ต้นมุจลินท์-ต้นราชายตนะ
  • แม่น้ำเนรัญชรา สถานที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานเสี่ยงทายลอยถาด ณ จุดนี้ จะร่วมกันทำพิธีอธิษฐานจิตเป็นพุทธบูชา ณ สถานที่สำคัญแห่งนี้
  • บ้านนางสุชาดา
  • ดงคสิริเขาบำเพ็ญเพียร
  • วัดไทยพุทธคยา วัดนานาชาติ

[/su_list]


ภาพตัวอย่างบรรยากาศแสวงบุญ ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย

เชิญชมภาพบรรยากาศการแสวงบุญ จากทริปที่ผ่านมาที่ทาง ฟาฟา ทราเวลได้มอบบริการดีๆ


[insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’]

เชิญร่วมแสวงบุญ

[insert page=’packagetour’ display=’content’]

Loading

เส้นทางจาริกแสวงบุญสังเวชนียสถาน

ฟาฟา ทราเวลอัพเดทเรื่องราว เส้นทางจาริกแสวงบุญ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เส้นทางจาริกแสวงบุญ

Loading